แนวรับ ไม่ได้หมายความว่า "ให้รับทุกครั้ง"

     แนวรับเอาไว้ดูปฏิกิริยาของแรงซื้อ-แรงขายบริเวณโซนนั้น ว่ามีแรงซื้อกลับเข้ามาหรือไม่ อย่างน้อย ๆ ต้องมีสัญญาณโมเมนตัมระยะสั้นก่อนว่า บริเวณที่เราติดตามดูตรงนี้ มีแรงซื้อกลับมาก่อนแล้วเราค่อยซื้อ

     หากเราเป็นเทรดเดอร์ที่พอกราฟลงมาถึงโซนแนวรับแล้วรีบเปิดคำสั่งซื้อทุกครั้ง หากบังเอิญว่า กราฟมาถึงโซนแนวรับแล้วเด้ง ทำให้เราได้กำไร จะทำให้เราติดนิสัยหรือภาพจำว่า ทุกครั้งที่ลงมาถึงแนวรับแล้วกราฟจะต้องเด้งขึ้นเสมอ แล้วพอเทรนขาลงมาจริง เทรดเดอร์ที่ชอบเทรดในลักษณะแบบนี้ มักจะพอร์ตแตกเสมอ เทรดเดอร์หลายคนที่มีการวางแผนมาดีหน่อย ก็อาจจะวาง Stop Loss เอาไว้ แต่หากเป็นเทรดเดอร์ที่ไม่ชอบการสูญเสีย ส่วนใหญ่มักจะไม่กล้าที่จะคัตลอสออก แต่จะปล่อยให้ไหลไปเรื่อย ๆ เพราะคิดว่า เมื่อถึงโซนแนวรับแล้ว อาจเลยไปบ้าง แต่เดี๋ยวก็ต้องเด้งขึ้นกลับคืนมาแน่นอน แต่สุดท้ายแล้ว กราฟอยู่ในเทรนด์ขาลง ก็ยังคงต้องลงต่อไป จนกว่า จะเปลี่ยนเป็นเทรนด์ขาขึ้น ซึ่งไม่รู้ว่า จะอีกนานแค่ไหน เป็นต้น

     การเป็นเทรดเดอร์ที่เก่ง ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อได้ที่จุดต่ำที่สุด คนส่วนใหญ่มีความคิดว่า การที่จะเทรดให้ได้กำไรมากที่สุด เราต้องซื้อได้ในจุดที่ต่ำที่สุด แต่เราไม่สามารถรู้ได้ว่า กราฟได้ลงมาถึงจุดต่ำที่สุดแล้วหรือยัง

     ดังนั้น การที่เทรดเดอร์ต้องการซื้อให้ได้ในราคาต้นทุนที่ต่ำที่สุดนั้น จึงต้องเสี่ยงดวงและต้องควบคุมความสูญเสียด้วยการตั้ง Stop Loss ด้วยทุกครั้ง เพราะหากเราไม่สามารถควบคุมความสูญเสียได้ มันจะกลายเป็นความเสี่ยงมาก เพราะไม่รู้ว่า กราฟจะลงสุดที่จุดไหน ซึ่งหัวใจของเทรดเดอร์สายเทคนิคคอลจริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องซื้อให้ได้ในจุดต่ำที่สุด แต่สามารถซื้อแพง และขายในจุดที่แพงกว่าก็ได้เช่นกัน นั่นหมายความว่า เทรดเดอร์ที่เก่ง จะรอให้กราฟมีสัญญาณก่อน แล้วจึงค่อยทำการซื้อ ไม่ต้องกลัวว่าจะตกรถ เพราะไม่มีกราฟใดที่ขึ้นโดยไม่มีการย่อตัว เราสามารถเข้าซื้อตอนย่อตัวได้ตลอดทางอยู่แล้ว

     สิ่งที่น่ากลัวกว่า คือ การที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง แล้วเรามีหุ้นติดอยู่เต็มพอร์ตไปหมด เพราะเราไม่รู้ว่า กราฟจะลงสุดแค่ไหน

     การเป็นเทรดเดอร์ที่สามารถทำกำไรได้นั้น นอกจากต้องมีความรู้แล้ว ยังต้องมีวินัยสูงอีกด้วย เพราะหากมีความรู้มากแต่ขาดวินัย ก็ไม่พ้นคำว่า รู้หมดแต่อดไม่ได้ และรู้งี้อยู่ดี

     เทรดเดอร์ที่ชอบซื้อในโซนแนวรับทุกครั้ง เพราะคาดหวังว่า หากกราฟมีการกลับตัว แล้วเราจะได้ในจุดที่ราคาดีที่สุด ต่อให้มีวินัยสูงก็ตาม กราฟลงมาโดน Stop Loss ไม่กี่ครั้ง อาจจะไม่กังวล แต่พอโดนไปเรื่อย ๆ บ่อย ๆ เข้า เริ่มคิดว่า ถ้าเราเข้าออเดอร์ในจุดนี้ เราจะโดน Stop Loss อีกไหม ทำให้ พอถึงเวลาที่กราฟจะกลับตัวจริง ๆ เทรดเดอร์ท่านนี้ กลายเป็นไม่กล้าที่จะเปิดออเดอร์แทน ดังนั้น หากเป็นไปได้ การที่กราฟลงมาถึงโซนแนวรับแล้ว ให้เรารอจังหวะและแรงซื้อก่อน เพื่อดูว่า มีแรงซื้อในโซนนี้จริงหรือไม่ อย่าเพิ่งรีบเปิดคำสั่งซื้อทุกครั้งที่กราฟลงมาถึงโซน

     จุดที่ควรซื้อ ไม่ซื้อ จุดที่ควรอยู่เฉย ๆ กลับไม่อยู่เฉย ๆ พอถึงจังหวะที่ควรซื้อ กลับไม่มีตังค์ หรือเทรดเดอร์บางคน โดน Stop Loss บ่อย ๆ ถึงแม้จะเหลือเงินทุน แต่ก็ไม่เหลือใจเทรดแล้วก็มี Mindset พังไปจนหมดแล้ว เป็นต้น

     ดังนั้น การเป็นเทรดเดอร์สายเทคนิคคอล เราต้องไม่นำเอาความรู้สึกหรือความคาดหวังของตนเอง เลิกมโนภาพหรือคิดไปเองออกไป การเทรดด้วยกราฟมันจะง่ายขึ้น เพียงแค่มีวินัยในการรอคอยจังหวะที่เหมาะสมเท่านั้นเอง

     หุ้นที่เป็นขาลงกับหุ้นที่เป็นขาขึ้น เป็นคนละเรื่องกัน ให้ลองสังเกตดูว่า หุ้นขาขึ้นพอชนแนวต้านมักจะมีโอกาสที่จะหยุดหรือย่อตัว แต่เวลาหุ้นเป็นขาลง แนวรับนั้นไม่จำเป็นต้องเอาอยู่ทุกแนวรับ สามารถที่จะหลุดได้หมด จนกว่าจะเกิดสัญญาณซื้อหรือสัญญาณกลับตัว ดังนั้น เวลาหุ้นเป็นขาลง แล้วลงมาถึงที่แนวรับ ไม่จำเป็นต้องรีบซื้อ ให้รอจนกว่าจะเกิดสัญญาณกลับตัวหรือสัญญาณซื้อเท่านั้น ซึ่งในเรื่องของสัญญาณซื้อขาย ตรงนี้ต้องแล้วแต่เทคนิคของแต่ละท่านเลยครับ