ซื้อขายหุ้นผ่าน Streaming ไม่ต้องเฝ้าจอด้วยคำสั่ง Condition Order | Stop Order, Trailing Order และ Bracket Order

     หนึ่งในเหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกเปลี่ยนอาชีพมาเป็นเทรดเดอร์ เพราะต้องการความอิสระทางด้านเวลา ดังนั้น หากเราเทรดหุ้นหรือซื้อขายหุ้นโดยที่ยังคงต้องนั่งเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาอยู่นั้น ก็คงจะไม่เป็นเรื่องที่ดีแน่ บทความและคลิปสอนในวันนี้ จึงสอนเกี่ยวกับการตั้งคำสั่งล่วงหน้าด้วยฟังก์ชั่น Condition Order ในโปรแกรม Streaming กันครับ 

     ก่อนที่จะเริ่มสอน พี่แดงเริ่มด้วยการเปิดหน้าจอ TFEX MT4 ก่อน แล้วทำการเปิดสัญญาซื้อขายให้ดูว่า เมื่อเราเปิด 1 สัญญาสิ่งที่เกิดขึ้นจะมีอะไรบ้าง หน้าต่าง Tools Box มีอะไรแสดงขึ้นมาให้เราได้เห็นบ้าง ซึ่งก็คือ ซีรีส์ของ TFEX, จำนวนสัญญา, ค่าคอมมิชชั่นและภาษี รวมทั้งกำไรหรือขาดทุนในเวลาปัจจุบัน

     ในช่วงต้นคลิป พี่แดงพูดเรื่องของโปรแกรม MT4 และโปรแกรม KTBST Smart (ซึ่งปัจจุบันได้ปิดตัวไปแล้ว) ใช้สำหรับสแกนหาหุ้นต้นเทรนด์ ในส่วนการใช้งานฟังก์ชัน Condition Order เพื่อตั้งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าของโปรแกรม Streaming สามารถเลื่อนไปนาทีที่ 11.30 ได้เลยครับ

     ฟังก์ชัน Condition Order ของ Streaming ในคลิปวีดีโอนี้ เป็นเวอร์ชั่นเก่าแล้วเนื่องจากปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนฟังก์ชัน Condition Order มาไว้ที่โซนด้านล่างของหน้าต่าง แต่หลักการทำงานยังคงใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นเก่าอยู่ สามารถเรียนรู้เบื้องต้นและประยุกต์ใช้งานได้เช่นเดียวเดิม 

     Stop Order เป็นคำสั่งที่สามารถใช้ตั้งเป็นจุด Take Profit หรือ Stop Loss ให้กับหุ้นที่เราเลือกไว้ผ่านโปรแกรม Streaming ได้ ด้วยการกำหนดจุด Trigger Point ก่อน เมื่อราคามาถึงจุดนี้ จะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป เช่น ซื้อหุ้นเข้าหรือขายหุ้นออกก็ได้

     Trailing Stop เป็นคำสั่งซื้อขายล่วงหน้ากรณีที่เราติดตามหุ้น เช่น หุ้นตัวหนึ่งลงมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีแรงซื้อดีดกลับขึ้นมาเป็นเปอร์เซ็นต์ตามที่เรากำหนด เช่น 5% ให้ทำการเปิดคำสั่งซื้อให้โดยอัตโนมัติ หรือเรามีหุ้นอยู่แล้ว และหุ้นกำลังขึ้น เราได้กำไรแต่ไม่มีเวลาเฝ้าหน้าจอว่าจะขายออกตอนไหน เราสามารถกำหนดได้ว่า เมื่อหุ้นขึ้นไปถึงจุดสูงสุดและลดลงมา 5% ให้ทำการขายหุ้นออกทั้งหมด เป็นต้น

     Bracket Order เป็นคำสั่งในการตั้งล่วงหน้าว่า หากกราฟราคาขยับมาโดนจุด Trigger Point ที่เรากำหนดไว้จุดใดจุดหนึ่ง ให้ทำการยกเลิกอีกจุดหนึ่งให้โดยอัตโนมัติ  เช่น เราซื้อหุ้นที่ราคา 10 บาทและกำหนด Triger Point 2 จุด โดยจุด Upper Price อยู่ที่ 15 บาท และ Lower Price ที่ 8 บาท หากกราฟราคาวิ่งลงมาจนแตะ 8 บาท ก็จะโดน Stop Loss เส้น Upper Price ก็จะหายไป หรือถ้าวิ่งขึ้นไปจนเจอเส้น Upper Price เส้น Lower Price ก็จะหายไป เป็นคำสั่งที่สะดวกมาก ๆ ในกรณีที่เป็นเทรดเดอร์ที่วางจุดเข้าและจุดออกเอาไว้อย่างชัดเจน