ปัญหาของคนไทยที่มีหนี้สินท่วมตัวเกิดจากสาเหตุอะไร สาเหตุของการก่อหนี้
สถิติทางการเงินล่าสุด คนไทยมีหนี้ท่วมตัวมากกว่า 90% ต่อ GDP สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการขาดวินัย ใช้จ่ายเกินตัวและเศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวช้า
โดยมีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยในช่วงสิ้นปี 2567 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึงระดับ 91.4% ต่อ GDP หรือราว 16.9 ล้านล้านบาท หากมองย้อนกลับไปในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมาจะพบว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในสภาวะทรงและทรุด
- ปี 2564 มูลค่าหนี้สินโดยรวมประมาณ 14.90 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90.5% ต่อ GDP
- ปี 2565 มูลค่าหนี้สินโดยรวมประมาณ 14.13 ล้านล้านบาท คิดเป็น 86.8% ต่อ GDP
- ปี 2566 มูลค่าหนี้สินโดยรวมประมาณ 16.20 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90.9% ต่อ GDP
ทั้งนี้ หนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยเกิน 80% ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 และจากสถิติยังระบุอีกด้วยว่า 1 ใน 3 ของหนี้คนไทย เป็นการก่อหนี้เพื่อการอุปโภค บริโภค เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อบัตรเครดิต ซึ่งเป็นหนี้ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้ ตัวเลขค่อนข้างสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศใกล้เคียงกันอย่างมาเลเซียและจีนที่ 14% และ 13% ตามลำดับ
ค่าเฉลี่ยของคนไทย มีรายได้เท่าไหร่? และมีหนี้สินเท่าไหร่?
- ปี 2565 รายได้คนไทยเฉลี่ย/คน/ปี อยู่ที่ 248,677.20 บาท
- ปี 2566 รายได้คนไทยเฉลี่ย/คน/ปี อยู่ที่ 263,332.90 บาท
- ปี 2565 หนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนอยู่ที่ 501,711.00 บาท
- ปี 2566 หนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนอยู่ที่ 550,948.70 บาท
- แบ่งเป็นหนี้ในระบบ 80.2% ค่าเฉลี่ยการผ่อนชำระอยู่ที่ 12,012.70 บาท/เดือน
- แบ่งเป็นหนี้นอกระบบ 19.8% ค่าเฉลี่ยการผ่อนชำระอยู่ที่ 4,715.50 บาท/เดือน
โดยตัวเลขดังกล่าวข้างต้นเป็นตัวเลขค่าเฉลี่ย ส่วนตัวเลขที่แท้จริงมากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละครัวเรือน
สาเหตุของการก่อหนี้
เกิดได้จากหลากหลายปัจจัย โดยสาเหตุหลัก ๆ ได้แก่
1. สภาพเศรษฐกิจของประเทศที่ฟื้นตัวช้า เงินเฟ้อที่สูงขึ้นทำให้ต้นทุนสินค้าสูงตาม ในขณะที่รายได้เท่าเดิมหรือน้อยลง เท่ากับว่าเป็นตัวเร่งให้คนไทยมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น แม้ภาพรวมในปี 2567 นี้ เศรษฐกิจไทยพอจะฟื้นตัวได้บ้าง โดยเฉพาะภาคการส่งออก แต่เป็นการฟื้นตัวแบบกระจุกตัว และมีสถิติเพิ่มเติมอีกว่า แรงงานในประเทศบางส่วนยังจำเป็นต้องกู้ยืมเงิน เพื่อมาเสริมสภาพคล่องให้กับตนเองและครอบครัวอีก 71%
2. ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้น ดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นย่อมส่งผลให้คนที่กู้ซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์หรือสินเชื่อเพื่อการลงทุน จำเป็นต้องแบกรับภาระในการจ่ายหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อการไปกู้ยืมเงินจากแหล่งอื่น ทั้งในและนอกระบบ เพื่อนำมาชำระหนี้ที่มี ไม่นับรวมถึงความสามารถในการจ่ายหนี้ที่หลายคนต้องขอพักชำระหนี้หรือผ่อนผันไปก่อน ยิ่งทำให้ตัวเลขหนี้มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
3. วินัยในการใช้จ่าย คนไทยส่วนใหญ่ขาดวินัยในการใช้จ่าย ไม่มีการวางแผนทางด้านการเงินที่ดีพอ บางคนมีรายได้น้อย แต่ใช้จ่ายเกินตัว ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายตามกระแสนิยม เช่น การซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ ซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น สังคมเป็นประเภทวัตถุนิยมอย่างชัดเจน ส่งผลให้ยอดหนี้ในบัตรเครดิตคนไทยพุ่งสูงมาก เงินเดือนที่ได้มาก็ต้องนำมาหักจ่ายหนี้ วนเวียนกันไปแบบนี้ไม่รู้จบ
คนไทยเป็นหนี้อะไรมากที่สุด
หนี้สินของคนไทย ส่วนใหญ่เป็นหนี้เรื่องของการอุปโภคและบริโภคเป็นหลัก บ้างก็เป็นหนี้สินที่กู้ยืมมาเพื่อลงทุน แต่หากดูข้อมูลเชิงลึกจะพบว่า คนไทยเป็นหนี้ในการผ่อนรถ ผ่อนบ้านและหนี้บัตรเครดิตมากที่สุด
ข้อมูลที่น่าตกใจระบุว่า กำลังมีรถที่จะเข้าสู่ตลาดประมูลมากถึง 200,000 คัน หรือถ้าดูจากสถิติของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่ระบุว่า การยึดรถยนต์ในปี 2566 ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 25,000-30,000 คันต่อเดือน จากปี 2565 ที่อยู่ที่ประมาณ 20,000 คันต่อเดือน
ส่วนเรื่องหนี้สินที่อยู่อาศัย ข้อมูลระบุว่าสินเชื่อบ้านมีหนี้เสียถึง 1.8 แสนล้านบาท หมายความว่า มีบ้านที่กำลังจะถูกยึดถึง 1.8 แสนหลังคาเรือน ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 31% และในจำนวนนี้เป็นหนี้ 1.2 แสนล้านบาท ที่มาจากการซื้อบ้านที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท
หนี้บัตรเครดิต ในปีที่ผ่านมาพบว่า คนไทยมีหนี้บัตรเครดิตสูงถึง 546,000 ล้านบาท จากจำนวนผู้ถือบัตรเครดิต 23.8 ล้านใบ และคาดว่าในปี 2567 คนไทยที่เป็นหนี้จากบัตรเครดิตจะเพิ่มมากขึ้นด้วย
หากดูข้อมูลเชิงลึกเข้าไปอีกจะพบว่า กลุ่มคนอายุ 26-40 ปี เป็นกลุ่มที่ผ่อนบ้านและมีหนี้เสียจากกลุ่มนี้เยอะมาก ส่วนในกลุ่มอายุ 44-53 ปี เป็นกลุ่มที่มีหนี้เสียจากการผ่อนรถยนต์มากที่สุด เรื่องของหนี้สินที่คนไทยเผชิญอยู่ในตอนนี้ ไม่ได้มีผลกระทบแค่ตัวเอง แต่ยังสะเทือนไปถึงระดับประเทศ ยิ่งคนไทยเป็นหนี้มากก็ยิ่งฉุดรั้งการพัฒนาประเทศมากขึ้นด้วย
0 ความคิดเห็น