GAP ความหมายของกราฟกระโดด ช่องว่าง GAP มีกี่ประเภท ต้องปิด GAP ทุกครั้งหรือไม่ ความหมายของ GAP

     ตลาดของการลงทุนที่มีเวลาเปิด-ปิดทำการ เช่น ตลาดหุ้นของประเทศไทย มีเวลาเปิดทำการในช่วงเช้า ช่วงบ่ายและช่วงค่ำ ช่วงระหว่างการปิดพักเบรคนั้น เมื่อเปิดทำการใหม่อีกครั้ง จะสังเกตุเห็นลักษณะของกราฟมีการกระโดดเกิดขึ้น เนื่องจากมีความต้องการซื้อหรือต้องการขายที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงพักเบรค ลักษณะของกราฟที่กระโดดแต่ละครั้งจะสามารถวิเคราะห์เบื้องต้นได้ว่า มีโอกาสที่จะไปในทิศทางใดต่อไป คลิปและบทความนี้มีคำตอบครับ

     ในช่วงเรื่องเล่าก่อนเข้าเรื่อง เนื่องจากได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ค่อนข้างเยอะ ในใจลึก ๆ มีความคิดว่า ปัญหาชีวิตหรือปัญหาหนี้สินของแต่ละคน เราสามารถที่จะแก้ไขมันได้ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนมุมคิดเพียงเล็กน้อย ชีวิตก็จะดีขึ้น พี่แดงจึงนำแนวความคิดบางส่วนมาแชร์ไอเดียกัน

     ในส่วนของเรื่อง GAP หรือช่องว่างของการกราฟกระโดดนั้น มีความหมายอย่างไรบ้าง โดยหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 4 ลักษณะของกราฟกระโดดด้วยกัน คือ

     1.Common GAP ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในหุ้นที่มีการซื้อขายน้อยหรืออยู่ในช่วงสภาพคล่องต่ำ ช่องว่างนี้ไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไรนัก เนื่องจากไม่สามารถบอกทิศทางของหุ้นได้

     2.Breakaway GAP เกิดขึ้นเมื่อราคาหุ้นทะลุออกจากรูปแบบที่ก่อตัวมาก่อนหน้า เช่น มีการทะลุผ่านเส้น Neck Line ของรูปแบบ Head & Shoulders หรือทะลุแนวรับ-แนวต้าน หรือทะลุเส้น Trendline เป็นต้น โดยรูปแบบ Breakaway GAP นี้ มักเป็นการเริ่มต้นวิ่งของแนวโน้มใหม่ และควรจะเกิดพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูง

     3.Runaway GAP เมื่อราคาวิ่งไประยะหนึ่ง (โดยส่วนใหญ่ประมาณครึ่งของของแนวโน้มทั้งหมด) แล้วเกิดการกระโดดจนเป็นช่องว่าง โดยมีปริมาณการซื้อขายปานกลาง เมื่อ GAP ชนิดนี้เกิดขึ้น สันนิษฐานได้ว่า หลังจากนั้น ราคาจะสามารถวิ่งต่อไปได้อีกเท่ากับระยะทางที่วิ่งมา

     4.Exhaustion GAP เป็นการกระโดดของราคาครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นราคาจะเริ่มปรับตัวลงมาปิด GAP โดยปริมาณการซื้อขายจะสูงมาก และอาจมีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มไปจากแนวโน้มเดิม ซึ่ง GAP ชนิดนี้ หากเกิดภายหลังจาก Breakaway GAP และ Runaway GAP จะช่วยเพิ่มแม่นยำให้มากขึ้นอีก