อาชีพที่เสี่ยงตกงาน เมื่อ AI เก่งขึ้นเรื่อย ๆ

     ปัจจุบันนี้ วิทยาการและอินเตอร์เน็ตก้าวหน้าไปเร็วมาก ๆ ในอดีต สิ่งที่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรในการประมวลผลระดับสูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาตามที่ต้องการ ล้วนมีราคาแพง ผิดกับปัจจุบันที่เทคโนโลยีทันสมัยต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้ง่าย แม้กระทั่งการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือก็ทำได้ ใช้การประมาลผลผ่านคลาวด์และที่สำคัญ ฟรี! อีกด้วย ดังนั้น งานหลายประเภทที่มนุษย์เคยทำได้ ต่อไปอาจจะใช้ AI ทำงานให้แทน แล้วงานอะไรบ้างที่ AI มีโอกาสที่จะเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ มาลองติดตามกันครับ 

     งานเขียนและโฆษณา ในปัจจุบัน AI สามารถเขียนบทความหรือคิดคำโฆษณาต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ระบุหัวข้อที่ต้องการ แนวความคิดที่ต้องการเพียงเท่านั้น ยกตัวอย่าง ความสามารถของ ChatGPT ที่สามารถเขียนบทความหนึ่งหน้ากระดาษได้ภายในระยะเวลาแค่อึดใจเดียวเท่านั้น ทำให้เจ้าของธุรกิจต่าง ๆ หันไปใช้บริการเขียนคำโฆษณา หรือเขียนบทความเพื่อใช้ในการทำการตลาดและการขายเป็นจำนวนมาก คาดว่าในอนาคต ธุรกิจให้บริการเขียนคำโฆษณา จะกลายเป็นเขียนผ่าน AI ถึง 90%

     งานบริการ Call Center ปัจจุบันหลาย ๆ หน่วยงานหรือบริษัทเอกชนใหญ่ ๆ ก็เริ่มหันมาใช้ AI ในการตอบคำถามเบื้องต้นให้แก่ลูกค้าบ้างแล้ว เพื่อลดภาระพนักงานที่เป็นคนจริง ๆ ลง เพราะบางคำถามเป็นเพียงแค่คำถามง่าย ๆ มีการถามซ้ำเข้ามาบ่อย ๆ การใช้ระบบอัตโนมัติก็ช่วยลดแรงกระแทกจากการกระทบกระทั่งกันได้ ในอนาคต หาก AI ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถตอบคำถามยาก ๆ ที่มีความซับซ้อนแทนคนได้ ก็อาจทำให้ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการตอบคำถามลูกค้าหรือ Customer Service เสี่ยงต่อการตกงานหรือเลิกจ้างได้ 

     ทนายความ บริษัทด้านกฎหมายในสหรัฐอเมริกาได้ทดลองพัฒนาหุ่นยนต์ทนายความ จนมีความสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเตรียมต่อสู้คดีในกรณีที่จำเลยโดนใบสั่งได้แล้ว ความก้าวหน้าดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในโลก ในการใช้ AI ช่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต่อไปอาจส่งผลกระทบต่ออาชีพทนายความบ้างไม่มากก็น้อย

     โปรแกรมเมอร์ ในช่วงที่ผ่านมา เราอาจได้ยินข่าวว่า AI สามารถแข่งขันกับมนุษย์ในการแก้ปัญหาวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างง่ายได้แล้ว ในขณะที่ ChatGPT สามารถตอบคำถามและเขียนโค้ตโปรแกรมได้ แม้จะทำได้ไม่ดีเท่ากับโปรแกรมเมอร์จริง ๆ แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกของวงการคอมพิวเตอร์ที่นำระบบอัตโนมัติมาเขียนโค้ตโปรแกรม ทำให้ลดงานง่าย ๆ และซ้ำซ้อนลงได้พอสมควร

     อินฟลูเอ็นเซอร์หรือนางแบบเสมือน เมื่อไม่นานมานี้ เราเริ่มได้เห็นอินฟลูเอนเซอร์เสมือน หรือนางแบบที่สร้างขึ้นจาก AI ที่สวยเหมือนผู้หญิงจริง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยแรก ๆ ที่เห็นอาจเป็นเพียงแค่ภาพนิ่งเท่านั้น แต่ในระยะหลัง ๆ สามารถที่จะเทรน AI ให้ขยับปากพูดได้ตามอักษรที่เขียนอีกด้วย และบางสำนักข่าวในต่างประเทศเริ่มออกอากาศข่าวด้วยการใช้ AI เสมือนแทนผู้ประกาศข่าวตัวจริงแล้วอีกเช่นกัน หากมีการพัฒนาขึ้นต่อไป เชื่อว่า อาชีพนักข่าวที่อ่านออกสื่อต่าง ๆ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างแน่นอน

     กราฟิกดีไซน์และช่างภาพ เทคโนโลยี AI ในปัจจุบัน สามารถสร้างภาพประกอบได้ง่ายและรวดเร็วมาก ๆ ยกตัวอย่าง เช่น DALL-E และ Midjourney ที่สามารถสร้างภาพประกอบได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่เขียน Prompt ขึ้นมาเท่านั้น ต้องการแสงเงาแบบใด สามารถกำหนดได้เอง และยังลุกลามไปถึงวงการภาพยนต์อีกด้วย โดย AI ชื่อว่า Sora สามารถที่จะสร้างวีดีโอสั้น ๆ ด้วยการเขียน Prompt เช่นกัน ถึงแม้ว่ายังคงมีความไม่เนียนตาหรือความไม่สมจริงเท่าไหร่นัก และบางภาพยังมีข้อผิดพลาดที่ไม่น่าอภัยเกิดขึ้นอีกด้วย เช่น มีนิ้วมือมากเกินความเป็นจริง เป็นต้น แต่เชื่อว่า AI คงพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ และจะดีมากตามลำดับ

     งานด้านบัญชีและการเงิน มีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาหลายคนมองว่าเทคโนโลยีของ AI สามารถทำงานด้านเอกสาร บัญชีต่าง ๆ รวมถึงการวิเคราะห์ทางการเงินได้รวดเร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า แต่การใช้ AI จะเป็นประโยชน์อย่างมากในเรื่องของการเตรียมข้อมูลและเอกสารให้กับผู้ที่ทำงานด้านบัญชีและการเงิน ในส่วนของงานวิเคราะห์อาจยังจำเป็นต้องใช้มนุษย์ในการดำเนินการอยู่ เนื่องจากเป็นงานที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนนั่นเองครับ

     สุดท้ายแล้ว ณ ปัจจุบัน AI ยังคงเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยของมนุษย์ ส่วนการตัดสินใจที่เด็ดขาดยังคงอยู่ที่มนุษย์เราอยู่ดี แต่จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น เราจะเห็นว่าการมาของ AI ในยุคปัจจุบันถือเป็นสัญญาณว่า หากใครหรือธุรกิจใด ไม่สามารถปรับตัวหรือพัฒนาศักยภาพตัวเองขึ้นมาได้ อาจจะไม่สามารถอยู่รอดหรือแข่งขันกับคนอื่นได้ในอนาคตอย่างแน่นอน