Banner_Head

Banner_Post

วางแผนเป็น Full Time Trader ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง แนวทางเป็นเทรดเดอร์เต็มเวลาทำอย่างไร

วางแผนเป็น Full Time Trader ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง แนวทางเป็นเทรดเดอร์เต็มเวลาทำอย่างไร


วางแผนเป็น Full Time Trader ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง แนวทางเป็นเทรดเดอร์เต็มเวลาทำอย่างไร


     อาชีพเทรดเดอร์ ไม่ใช่ว่าใครต้องการจะเป็นก็สามารถเป็นกันได้ง่าย ๆ ทุกคน เหมือนอย่างที่เราเห็นโพสต์กันในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว อาชีพเทรดเดอร์ก็เปรียบเสมือนหนึ่งอาชีพที่เราจำเป็นต้องจริงจังและฝึกฝนเท่านั้น จึงจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนั้น ๆ ซึ่งในทุกอาชีพจะมีผู้ที่สำเร็จจริง ๆ ประมาณ 10% เท่านั้น

     เคยสงสัยกันไหมว่า นักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนวิชาบริหารธุรกิจ เรียนจากอาจารย์ผู้สอนท่านเดียวกัน ห้องเรียนเดียวกัน แต่เหตุใดจึงมีผู้ประสบความสำเร็จแตกต่างกัน มีจำนวนเพียงน้อยนิดเท่านั้น แสดงว่า ความรู้ต่อให้ได้รับเหมือนกันแต่ผลของมันก็แตกต่างกันอยู่ดีขึ้นอยู่กับตัวบุคคล เพราะนอกจากความรู้แล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ส่งผล คือ จริตและอุปนิสัยของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกัน ดังนั้น ไม่ว่าอาชีพใด ๆ ก็ตาม ล้วนเป็นปัจเจกบุคคลทั้งสิ้น ไม่มีใครที่เรียนรู้ในเรื่องเดียวกันแล้วจะประสบความสำเร็จได้เท่า ๆ กัน

     พี่แดงจึงมาแชร์ไอเดียว่า หากวันนี้เราต้องการวางแผนเป็น Full Time Trader เราจำเป็นต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง


วางแผนเป็น Full Time Trader ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง แนวทางเป็นเทรดเดอร์เต็มเวลาทำอย่างไร

6 สิ่งที่ควรมีก่อนตัดสินใจมาเป็น Full Time Trader


     1.มีการเก็บสถิติการเทรดของตัวเองอย่างน้อย 1 ปี เพื่อให้เราเห็นรูปแบบการเคลื่อนไหวของกราฟราคาในตลาดในหลากหลายรูปแบบก่อน หากเก็บสถิติน้อยเกินไปหรือเพิ่งเข้ามาเทรดได้สักพักก็ตัดสินใจมาเป็น 
Full Time Trader เราอาจจะยังมีประสบการณ์ไม่มากพอนั่นเอง ยังไม่ผ่านการตัดสินใจในหลากหลายรูปแบบ และอีกหนึ่งประโยชน์ของการเก็บสถิติ คือ เราจะได้รู้ว่า ระบบการเทรดของตัวเรานั้นสามารถอยู่รอดได้ในตลาดในระยะยาวหรือไม่

     อีกหนึ่งความผิดพลาดที่พี่แดงมักพบเห็น คือ การเก็บสถิติการเทรดด้วยบัญชี DEMO หรือบัญชีจำลอง ซึ่งไม่เห็นด้วยในการใช้เป็นเกณฑ์การตัดสินใจที่จะออกมาเป็น 
Full Time Trader การเทรดด้วยบัญชีจำลองจะไม่มีอารมณ์ ความโลภ ความกลัวของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้สถิติดีเกินจริง ต่อให้เทรดพลาดก็ไม่รู้สึกเสียดายเงิน เนื่องจากไม่ใช่เงินเราจริง ๆ หรือเมื่อได้กำไร เรากล้าที่จะถือได้ยาว เนื่องจากว่ามันไม่ใช่เงินจริงอีกเช่นกัน หากเป็นเงินจริง เราจะรู้สึกเสียดายกำไรที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น

     2.คำนวณค่าใช้จ่ายที่มีให้ละเอียดที่สุด เช่น มีค่าผ่อนบ้าน มีผ่อนรถ ค่าเล่าเรียนบุตร เงินเดือนให้พ่อแม่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากินอยู่เฉลี่ยเดือนละเท่าไหร่ เพื่อให้รู้ว่า เรามีรายจ่ายประจำต่อเดือนอยู่ที่เท่าไหร่ เราจำเป็นต้องเทรดเพื่อให้ได้กำไรออกมาขั้นต่ำเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่มีเหล่านั้น

     3.คำนวณย้อนกลับ เพื่อหาเงินต้นที่ควรต้องมี โดยคำนวณจากสถิติผลตอบแทนที่เราทำได้จากข้อที่ 1 แล้วดูว่าต้องใช้เงินทุนตั้งต้นเท่าไหร่ หากระบบเทรดเสถียรแล้ว เพียงพอกับค่าใช้จ่ายเหล่านั้นหรือไม่ หากไม่พอ เราต้องใช้เงินต้นเท่าไหร่ หากเรามีเงินทุนตั้งต้นจำนวนไม่มากแต่ต้องเทรดให้ได้ผลตอบแทนสูง เพื่อให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่มี จะทำให้เกิดความเครียดสะสม เพราะคาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้น ไม่เป็นผลดีในระยะยาวอย่างแน่นอน


วางแผนเป็น Full Time Trader ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง แนวทางเป็นเทรดเดอร์เต็มเวลาทำอย่างไร


     4.เตรียมเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 1 ปี ต่อให้เตรียมจนครบ 3 ข้อข้างต้นแล้ว เราก็ยังคงต้องมีเงินสำรองฉุกเฉินอีกอย่างน้อย 1 ปี เพราะจากสถิติการเทรดที่ผ่านมาไม่ได้หมายความว่าเราจะเทรดได้แบบนั้นทุกเดือน แต่นั่นคือค่าเฉลี่ยที่เกิดขึ้นจากอดีต แต่พอในสถานการณ์จริง ความเครียดที่เกิดขึ้นอาจจะสูงกว่า เพราะฉะนั้น หากเรามีเงินสำรองฉุกเฉิน จะทำให้ความเครียดลดลงได้ เทรดไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ อย่างน้อยก็ยังมีเงินเพียงพอที่จะชำระค่าใช้จ่ายจำเป็นต่าง ๆ

     5.ต้องมีประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุไว้ด้วย มีมากหรือมีน้อยไม่เป็นไรแต่ขอให้มี  เนื่องจากความเครียดจากการเทรดสูงกว่าที่เราคาดคิดไว้อย่างแน่นอน อีกทั้งอาชีพเทรดเดอร์ต้องนั่งนาน ๆ เคลื่อนไหวน้อย จำเป็นต้องมีการออกกำลังกายประกอบด้วย แต่หากเทรดเดอร์ท่านใดไม่ได้ออกกำลังกาย ร่างกายจะยิ่งอ่อนแอลง และหากไม่มีประกันสุขภาพไว้บ้าง เวลาเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมา อาจต้องมีการดึงเงินทุนออกมาใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้เป้าหมายเราไปไม่ถึงได้

     6.ต้องมีแหล่งรายได้ฟรีแลนซ์อีกอย่างน้อย 1 ช่องทาง หากเราเทรดแล้วไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง อย่างน้อย ๆ ก็ยังมีรายได้อีกหลายช่องทาง เพื่อมาช่วยในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายในแต่ละเดือน การทำงานอิสระนั้นไม่มีสิ่งใดการันตีว่า พอจบเดือนแล้วเราจะมีรายได้เท่าไหร่ ไม่เหมือนกับงานประจำ ซึ่งรู้ว่าพอถึงสิ้นเดือนเราจะได้รับเงินจำนวนเท่าไร

     ยิ่งเรามีรายได้หลากหลายช่องทาง ยิ่งทำให้เกิดความสบายใจ ทำให้ผลงานการเทรดดีขึ้น แต่ควรเป็นแหล่งรายได้ที่เป็นฟรีแลนซ์ อิสระในเรื่องของสถานที่ทำงานและอิสระในเรื่องของเวลา


วางแผนเป็น Full Time Trader ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง แนวทางเป็นเทรดเดอร์เต็มเวลาทำอย่างไร

เสน่ห์ของการเป็นเทรดเดอร์ 

     พี่แดงแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ คือ เทรดเดอร์ที่นำเงินใหญ่ไปแลกเงินเล็ก และเทรดเดอร์ที่นำเงินเล็กไปแลกเงินใหญ่

     หากเป็นเทรดเดอร์ที่นำเงินเล็กไปแลกเงินใหญ่ คือ ใช้เงินทุนน้อยแล้วเทรดให้ได้กำไรสูง ๆ ซึ่งเทรดเดอร์กลุ่มนี้จะมีความเครียดสะสมค่อนข้างสูง ความคาดหวังในผลตอบแทนค่อนข้างสูง ต้องมีโฟกัสหน้าเทรดและระบบเทรดที่แม่นยำ มีสิ่งรอบข้างมากระทบหรือรบกวน อาจทำให้ผลงานการเทรดผิดพลาดได้ อารมณ์จะหงุดหงิดง่าย หยิบมือถือขึ้นมาดูบ่อย ๆ ไม่ค่อยมีเวลาว่าง เป็นต้น

     ส่วนพี่แดงเป็นเทรดเดอร์อีกรูปแบบหนึ่ง ที่นำเงินใหญ่ไปแลกเงินเล็ก เพราะเราต้องการใช้ชีวิตกับคนรอบข้าง ยังคงต้องดูแลครอบครัว ดูแลลูก ต้องการเป็นเทรดเดอร์ที่อารมณ์ดี มีอิสระทางด้านเวลา มีรายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ไม่จำเป็นต้องร่ำรวยมาก ๆ แต่ขอให้ผลตอบแทนออกมาเสถียร ความเครียดในการเทรดน้อยลง ไม่ต้องโฟกัสในจังหวะกราฟขยับแรง ๆ หรือประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ เป็นต้น




สนใจเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นและ TFEX

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น

Banner_Post2