แนวคิดเทรด TFEX ให้ได้กำไรวันละ 1,000 บาท ยากไหม? สิ่งที่ควรรู้ในการทำกำไร TFEX สอนเทรด TFEX มือใหม่การวางหลักประกัน
พี่แดงนำอีกหนึ่งคำถามจากเพื่อนเทรดเดอร์มาตอบอีกเช่นเคย สำหรับคำถามที่ว่าเทรด TFEX ให้ได้ไรวันละ 1,000 บาท ยากไหม? และต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่? คลิปและบทความนี้มีคำตอบครับ
ก่อนที่เทรดเดอร์จะกระโดดเข้าสู่ตลาด TFEX พี่แดงขอแนะนำว่า ควรมีประสบการณ์ในการเทรดหุ้นมาก่อนบ้าง เพื่อจะได้รู้ว่า เมื่อเวลาหุ้นผิดทาง เรากล้าที่จะ Cut loss หรือไม่ เนื่องจากสินค้าอนุพันธ์มีวันหมดอายุ หากเราไม่กล้าตัดขาดทุนและถือไปจนครบสัญญา เราจะขาดทุนหนักกว่าเดิม ซึ่งตรงนี้แตกต่างจากหุ้นแน่นอน หุ้นไม่ขายไม่ขาดทุน เราจะขาดทุนจริง ๆ ก็ต่อเมื่อขายออกไปเท่านั้นแล้วเรายังสามารถถัวเฉลี่ยขาดทุน เพื่อลดต้นทุนเราให้ต่ำลงมาอีกก็ยังได้ ถือนาน ๆ หากบริษัทมีกำไรก็ยังได้รับเงินปันผล ซึ่งแตกต่างจากสินค้าอนุพันธ์หรือ TFEX เป็นอย่างยิ่ง เพราะ TFEX ไม่มีเงินปันผล TFEX มีวันหมดอายุ TFEX ไม่ควระถัวเฉลี่ยขาดทุน ดังนั้น หากเป็นไปได้ พี่แดงจึงแนะนำว่าควรจะเทรดหุ้นมาก่อนสักระยะหนึ่งแล้วลองดูใจตัวเองว่า เรากล้าที่จะตัดขาดทุนหรือไม่
จากตารางข้างต้น พี่แดงทำเพื่อให้เห็นภาพง่ายขึ้น โดย TFEX 1 สัญญา จะวางหลักประกันที่ 8,260 บาท ณ วันที่พี่แดงถ่ายทำคลิปวีดีโอ แต่แนะนำว่าหลักประกันควรจะเป็น 2 เท่าของเงินหลักประกันขั้นต่ำ (IM) มูลค่าต่อ 1 จุดของหนึ่งสัญญา คือ 200 บาท แสดงว่าเราต้องได้กำไร 5 จุด เพื่อที่จะถึงเป้าหมาย 1,000 บาท ของเรา
แต่หากเรามีจำนวนเงินทุนมากขึ้นไปอีก เราสามารถเปิดจำนวน 5 สัญญาได้ ซึ่งมูลค่าต่อ 1 จุด เมื่อกราฟราคาขยับจะได้กำไร 1,000 บาท ก็จะถึงเป้าหมายตามที่เราต้องการเป็นที่เรียบร้อย เห็นไหมครับว่า การทำกำไรวันละ 1,000 บาท จาก TFEX นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่พี่แดงก็มี 5 ข้อคิดเตือนใจสำหรับเทรดเดอร์ TFEX ไว้ด้วยครับ
ข้อคิดเตือนใจเทรดเดอร์ TFEX
1.เราไม่ได้ซื้อทุกทางทุกครั้ง
อย่ามองในมุมที่เราได้กำไรเพียงอย่างเดียว
แต่ให้มองในมุมที่เราพลาดพลั้งด้วยเสมอ
2.เราต้องวาง Stop loss ด้วยทุกครั้ง เนื่องจาก TFEX เป็นสินค้าที่มี Leverage หากเลยจุดที่เรากำหนด ควรตัดขาดทุนออกไป ดีกว่ารอให้หมดเวลา มีโอกาสเสียหายมากกว่าที่ควรจะเป็น
2.เราต้องวาง Stop loss ด้วยทุกครั้ง เนื่องจาก TFEX เป็นสินค้าที่มี Leverage หากเลยจุดที่เรากำหนด ควรตัดขาดทุนออกไป ดีกว่ารอให้หมดเวลา มีโอกาสเสียหายมากกว่าที่ควรจะเป็น
3.วาง Risk Reward Ratio ให้มากกว่า 1 เท่าเสมอ ในระยะยาวเราจะได้กำไร ถึงแม้ในระหว่างทางอาจจะมีขาดทุนบ้างก็ตาม และเมื่อเทรดผิดพลาดไป อย่าพยายามแก้ไขด้วยวิธีเบิ้ลขนาดของสัญญาให้มากขึ้น
4.ควรวางหลักประกันเป็น 2 เท่าของ Initial Margin (IM) จะได้ไม่มีน้องมาร์เก็ตติ้งโทรมาให้เติมเงิน เพราะการที่จำนวนเงินทุนน้อยลงจากการเทรดก็เครียดพออยู่แล้ว ยังต้องถูกน้องมาร์เก็ตติ้งจากบริษัทหลักทรัพย์โทรมาเพื่อให้เติมเงินเข้าไปอีก จะยิ่งเครียดและเสียสมาธิในการเทรดเข้าไปอีก
5.เพื่อความสบายใจ เราสามารถวางหลักประกันให้มากกว่า 2 เท่าไปเลย เยอะมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพื่อความยืดหยุ่นในการวางกลยุทธ์ในการเทรดและไม่มีน้องมาร์เก็ตติ้งโทรมากวนใจในขณะที่เราต้องการสมาธิในการเทรด
0 ความคิดเห็น