Mindset เทรดเดอร์ ทำไมต้องมีระบบเทรดที่ยั่งยืน เทรด TFEX เป็นอาชีพได้หรือไม่

     เพราะเหตุใด? เราจึงต้องการเป็นเทรดเดอร์ เพียงเพราะหวังรวยเร็ว ๆ ทำงานสบาย เพียงแค่นี้จริงหรือไม่ หรือเราต้องการประกอบอาชีพเป็นเทรดเดอร์จริง ๆ จัง ๆ ที่สามารถทำได้ตลอดชีวิต แล้วสามารถทำเป็นอาชีพได้จริงหรือ บทความและคลิปนี้มีคำตอบครับ

     ในช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา สังเกตว่ามีคนสนใจเปิดบัญชีเทรดหุ้น เทรด crypto เพิ่มขึ้นมาก  สาเหตุหนึ่งเนื่องจากไม่สามารถออกเดินทางไปไหนได้เพราะมีโควิดระบาดอยู่ แต่หลังจากโควิดซาลง จำนวนคนที่เปิดบัญชีลงทุนต่าง ๆ ก็ลดลงด้วยเช่นกัน แสดงว่าที่ผ่านมา การเปิดบัญชีลงทุนเกิดจากปัจจัยรอบข้างไม่ได้เกิดจากความต้องการส่วนตัว ทำให้นักลงทุนชั่วคราวเหล่านั้นไม่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนหรือการเทรด ดังนั้น ก่อนที่เราจะเริ่มจริงจังในการเป็นเทรดเดอร์ จึงควรถามตัวเองเบื้องต้นก่อนว่า

               ทำไม?        เราจึงมาเป็นเทรดเดอร์

               ทำอย่างไร?    เราถึงจะเทรดเป็น
                            เราถึงจะเทรดเก่งเร็ว ๆ
                            เราถึงจะเทรดได้กำไรเยอะ ๆ

     สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ พี่แดงแนะนำให้ลองศึกษาเรียนรู้การเทรดและการลงทุนจากการอ่านหนังสือมากกว่าการดูหรือฟังผ่านทาง social media ต่าง ๆ เนื่องจากการเรียนรู้ผ่านหนังสือนั้น ผู้เขียนได้มีการเรียบเรียงความรู้และความคิดออกมาเป็นลำดับขั้นตอนอย่างชัดเจน มีบรรณาธิการหนังสือคอยตรวจสอบความถูกต้องหรือคำผิดต่าง ๆ ในขณะที่ข้อมูลที่ได้จาก YouTube โดยทั่วไป บางครั้งเกิดจากประสบการณ์หรือความคิดเห็นส่วนตัวและไม่มีการเรียงลำดับขั้นตอนอย่างชัดเจน ทำให้เทรดเดอร์หรือนักลงทุนน้องใหม่ได้รับแนวความคิดที่ไม่ปะติดปะต่อกัน ดังนั้น หากเป็นน้องใหม่ในวงการจริง ๆ พี่แดงแนะนำให้เรียนรู้จากหนังสือหุ้นหรือหนังสือการลงทุนทั่วไปก่อนจะดีกว่า

     ในคลิป พี่แดงได้อธิบายเปรียบเทียบเทรดเดอร์ที่มีรูปแบบการเทรดต่างกัน 3 คน คนแรกเป็นเส้นสีส้ม มีผลตอบแทนหรือหวา เทรดได้กำไรมากและก็เทรดขาดทุนมากเช่นเดียวกัน มีบางครั้งเงินทุนลดลงจนเกือบถึงเงินทุนตั้งต้น แต่สุดท้าย เมื่อจบปีก็ได้ผลตอบแทนกลับมาที่ 60% เรียกได้ว่าจบปีเกือบเอาตัวไม่รอดเพราะผลงานผันผวนมาก

     เทรดเดอร์ท่านที่ 2 เป็นเส้นสีน้ำเงิน เทรดด้วยระบบ Risk Reward Ratio คือ กำไรจะได้มากกว่าขาดทุน จะเห็นว่ามีสโลปเฉียงขึ้นและจบปีสามารถสร้างผลตอบแทนได้ที่ 40%

     เทรดเดอร์ท่านที่ 3 คือ เส้นสีเขียว มีการถ่วงดุลในการลงทุนที่สมบูรณ์แบบ เช่น มีระบบเทรดตามเทรนด์ มีระบบเทรดสวนเทรนด์ในพอร์ตเดียวกัน เมื่อระบบหนึ่งทำกำไร อีกระบบหนึ่งจะขาดทุนถ่วงดุลกันไป แต่รวมกันแล้วจะได้กำไรส่วนต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้พอร์ตมีความเสถียรค่อนข้างสูง เมื่อจบปีอาจจะได้ผลตอบแทนโดยรวมไม่มากนักประมาณ 20% เท่านั้น

     เราต้องการเป็นเทรดเดอร์แบบไหน สมมุติว่า วันหนึ่งมีลาภลอยหรือได้รับโบนัสจากการทำงาน หากต้องการหันมาทุ่มเทกับการเทรด หากเราเป็นเทรดเดอร์คนที่ 1 ที่ผลตอบแทนหรือหวา เราอาจจะไม่กล้านำเงินมาลงทุนก็เป็นได้ เพราะไม่รู้ว่าวันใดวันหนึ่งเราอาจจะพลาดขึ้นมา เราอาจจะเลือกเป็นเทรดเดอร์คนที่ 3 เพราะความปลอดภัยของเงินต้นค่อนข้างสูง ถึงแม้ผลตอบแทนจะได้น้อยที่สุด แต่ความสบายใจกลับมากที่สุด ซึ่งบางคนอาจชอบเทรดเดอร์คนที่ 3 ชอบความหวือหวา อยากรวยเร็ว ๆ มากกว่าเทรดเดอร์คนที่ 3 ก็เป็นได้

ระบบเทรดที่ดีควรเป็นอย่างไรบ้าง

• หาระบบเทรดของตัวเองให้เจอ ความเสี่ยงที่เรารับได้ สไตล์การใช้ชีวิตของเรา Timeframe ที่เหมาะสม
• วันนี้เป็นเทรดเดอร์เงินทุนตั้งต้นน้อยไม่เป็นไร เมื่อระบบเทรดเสถียร ต่อให้เพิ่มทุนมากขึ้นก็จะไม่ตกใจ
• กำไรมากน้อยไม่สำคัญ สามารถปรับปรุง พัฒนาเพิ่มขึ้นได้ รักษาเงินต้นให้ได้ก่อน
• มองทุกอย่างเป็นเปอร์เซ็นต์เข้าไว้ กำไร ขาดทุน Drawdown
• เก็บสถิติการเทรด ระบบเทรด วิเคราะห์ตนเองทุกครั้งที่ผิดพลาด
• ระบบที่ดีต้องสามารถทำซ้ำได้
• เทรดอย่างมีวินัย แต่ต้องยืดหยุ่น