ตัวอย่างของนักลงทุนที่ขาดความรู้ ย้ายเงินลงทุนไปในสิ่งที่ให้ผลตอบแทนสูงเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ Asset Allocation
บทความและคลิปนี้ พี่แดงสมมุติเหตุการณ์ของสามี-ภรรยาคู่หนึ่ง ที่ขาดความรู้ในเรื่องของการลงทุน จึงทำให้มีแนวคิดการลงทุนแบบสะเปะสะปะ ผลตอบแทนจึงขาดทุน เปรียบเหมือนการลงทุนของหลาย ๆ คนในปัจจุบันนี้ที่มองกันเพียงแค่ตัวเลขของกำไรแต่ขาดการศึกษาหาความรู้ ส่วนจะเป็นอย่างไรคลิปนี้มีคำตอบครับ
ในช่วงแรกของคลิปเล่าถึงความโลภของนักลงทุน ทำให้ตกเป็นเหยื่อของ Forex3D ที่ออกข่าวกันอยู่ ส่วนเนื้อหาของคลิปนี้เริ่มต้นนาทีที่ 3.48 น. นะครับ
พี่แดงได้สมมุติผลงานการลงทุนของสามี-ภรรยาคู่หนึ่ง ตั้งแต่ปี 2551 โดยแบ่งการลงทุนออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ ลงทุนในสลากออมสิน ลงทุนในหุ้นและลงทุนในคริปโต ซึ่งผลงานการลงทุนของสามี-ภรรยาคู่นี้เป็นดังภาพข้างล่างนี้
โดยในคลิป พี่แดงได้เล่าถึงความรู้สึกนึกคิดของสามี-ภรรยาคู่นี้ในการตัดสินใจโยกย้ายพอร์ตการลงทุนสลับกันไปมาระหว่างสลากออมสิน หุ้นและคริปโต จนสุดท้าย ผลงานการลงทุนออกมา เงินเก็บเงินลงทุนที่เขามีกลับลดลงไป
พี่แดงอยากให้ลองฟังคลิป เนื่องจากเป็นความรู้สึกที่อยู่ในหัวของนักลงทุนที่ขาดความรู้ในเรื่องของการลงทุน มองแค่ในด้านเดียว คือ ด้านของผลตอบแทน ซึ่งเป็นความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ที่ลงทุนโดยขาดความรู้
สรุป ความโลภสามารถควบคุมได้ด้วยความรู้ อย่ามองเพียงแค่ผลตอบแทนการลงทุนในอดีตเท่านั้น และอีกเรื่องหนึ่ง คือ ควรมีการ Asset Allocation ด้วย เป็นการกระจายสินทรัพย์ถ่วงดุลในการลงทุน หากคู่สามี-ภรรยาคู่นี้จัดสรรเงินลงทุนออกเป็น 3 พอร์ตเท่า ๆ กัน โดยไม่มีการโยกย้ายเงินใด ๆ ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนกลับตาลปัตรจากเงินต้นเพียง 3 ล้านบาท จะเติบโตขึ้นไปถึง 7,770,000 บาททีเดียว หรือคิดง่าย ๆ คือ บวกขึ้นมาอีก 159% จากเงินทุนตั้งต้น เฉลี่ยแล้วได้รับผลตอบแทนประมาณ 7% กว่า ๆ ต่อปี เพียงแค่ลงทุนในสินทรัพย์ตัวเดิมไม่มีการโยกย้ายแต่อย่างใด
และหากรู้ตัวว่ากำลังลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงอยู่
เมื่อได้กำไรแล้วควร Rebalance ไปยังพอร์ตที่มีความเสี่ยงต่ำ เพียงเท่านี้
พอร์ตการลงทุนของเราก็จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีกโดยที่เราแทบจะไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมเลยครับ
0 ความคิดเห็น