อิสรภาพทางการเงิน ไม่ใช่วัดกันที่ความร่ำรวย Financial Freedom & Passive Income มีอะไรบ้าง

     เราอาจเคยเห็นคนที่มีบ้านหลังใหญ่โต หรูหรา ขับรถยุโรปคันแพง ๆ หลายคนอาจจะคิดว่า เขาเหล่านั้นน่าจะมีอิสรภาพทางการเงินอย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะอิสรภาพทางการเงิน ไม่ได้วัดกันที่ความร่ำรวย แล้ววัดกันที่สิ่งใดล่ะ คลิปนี้มีคำตอบครับ

     เรื่องเล่าก่อนเข้าเรื่องในวันนี้ เกิดจากการที่พี่แดงเห็นการแบ่งช่วงอายุแบบใหม่ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นทางการหรือไม่ แต่ความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่ายังไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรนัก และได้แชร์มุมมองการแบ่งวัยในความคิดเห็นส่วนตัวของพี่แดงด้วยเช่นกัน

     ในส่วนของเนื้อหาบทความนี้ เริ่มต้นที่ความเข้าใจผิด คิดว่าคนที่ร่ำรวย จะต้องเป็นคนที่มีอิสรภาพทางการเงินเสมอ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว อาจจะไม่ใช่ก็ได้ หากความร่ำรวยที่เกิดขึ้นนั้น ยังคงมีภาระหนี้สินที่ยังคงต้องชำระอยู่ เพราะคำว่าอิสรภาพทางการเงิน หมายความว่า เรามีอิสระในเรื่องของรายได้ที่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย โดยที่เราไม่จำเป็นต้องทำงานเลยก็ได้

     ความสำเร็จทางการเงิน มีอยู่ด้วยกัน 2 ระดับ โดยระดับแรก คือ ความสามารถที่จะอยู่รอดได้ แต่ยังต้องพึ่งพิงรายได้จากการทำงานอยู่ เรียกอัตราส่วนทางการเงินนี้ว่า อัตราส่วนความอยู่รอด

     โดยความสำเร็จทางการเงินนี้ยังไม่ใช่อิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง เป็นเพียงแค่อิสรภาพทางการเงินขั้นต้นเท่านั้น ทำให้เราไม่ต้องพึ่งพิงคนอื่นและมีอิสระในการใช้ชีวิตได้ในระดับหนึ่ง อิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง คือ การที่เราสามารถเลือกใช้ชีวิตตามที่ใจปรารถนา เช่น ทำในสิ่งที่รัก ใช้เวลากับครอบครัว มีอิสระจากงานประจำ โดยที่ยังคงมีรายได้สม่ำเสมอ เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายได้สบาย ๆ

     จึงเป็นที่มาของระดับทางการเงิน ระดับที่ 2 ซึ่งสามารถวัดได้ด้วยอัตราส่วนทางการเงินที่ชื่อว่า อัตราส่วนความมั่งคั่ง ซึ่งก็คือ รายได้จากสินทรัพย์หารด้วยรายจ่าย จะต้องมีค่ามากกว่า 1 ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี แสดงว่าเรามีอิสรภาพทางการเงินนั่นเอง

     จะเห็นได้ว่าการวัดอิสรภาพทางการเงินเป็นการวัดเชิงเปรียบเทียบระหว่างรายรับและรายจ่าย ดังนั้น อิสรภาพทางการเงินจึงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เนื่องจากมีรายรับและรายจ่ายที่ไม่เท่ากัน เราสามารถไปถึงอิสรภาพทางการเงินได้ด้วยการเพิ่มรายรับหรือลดรายจ่าย ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของแต่ละครอบครัว

รายได้จากสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ (Passive Income)

     1.การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น การซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (REITS)

     2.การลงทุนในหุ้น การถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนและได้รับเงินปันผล

     3.การลงทุนในกองทุนรวม กระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลายประเภท

     4.การลงทุนในพันธบัตรหรือหุ้นกู้ ได้รับดอกเบี้ยจากการให้กู้ยืมแก่รัฐบาลหรือองค์กรต่าง ๆ

     5.การลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ ลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลและได้รับผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหรือการให้ยืม

     6.การสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิตอล เช่น e-book template เพลง แบบเรียน สติ๊กเกอร์

     7.การสร้างช่อง YouTube หรือ podcast สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและได้รับรายได้จากค่าโฆษณา สปอนเซอร์หรือการขายสินค้า

     8.การเขียนบล็อก เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องที่สนใจและได้รับรายได้จากค่าโฆษณา

     9.การสร้างเว็บไซต์ขายสินค้าหรือให้บริการต่าง ๆ

     10.การขายภาพถ่ายหรือวีดีโอ ภาพถ่ายหรือวีดีโอที่คุณถ่ายทำผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Shutterstock หรือ IStockPhoto

     11.การสร้างและขายคอร์สออนไลน์ สร้างคอร์สสอนเกี่ยวกับทักษะหรือความรู้ที่คุณเชี่ยวชาญ

     12.การให้เช่าทรัพย์สินส่วนตัว เช่น บ้านพักตากอากาศ รถยนต์หรือเครื่องมือ

     13.สร้างและขายแอพพลิเคชั่น สร้าง App หรือเกมบนมือถือและขายผ่าน App Store หรือ Play Store