เทรดเดอร์ควรมีวินัยมากกว่าความเชื่อมั่น ความแตกต่างระหว่างเทรดเดอร์กับนักลงทุน ความเชื่อมั่นมากเกินไปทำให้ขาดทุนครั้งใหญ่เสมอ

     หัวข้อที่มาแชร์ให้ฟังในวันนี้ เทรดเดอร์อาจมีความสงสัยว่า แล้วความเชื่อมั่นมันไม่ดีอย่างไรหรือ เพราะความเชื่อมั่นจะทำให้เราลังเลน้อยลง แต่เชื่อไหมครับว่า หากต้องการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องมีวินัยมากกว่าความเชื่อมั่น จะเป็นอย่างไรนั้น ลองติดตามรับชมกันดูครับ

     ในเส้นทางของการลงทุนนั้น สามารถแบ่งออกได้ง่าย ๆ เป็นเทรดเดอร์และนักลงทุน เทรดเดอร์จะเน้นที่การซื้อถูกขายแพงหรือหากซื้อแพงก็ต้องขายให้ได้ในราคาที่แพงกว่า เป็นการจับจังหวะการลงทุนในทิศทางของกราฟเทคนิค ส่วนนักลงทุนนั้นจะเน้นการวิเคราะห์งบการเงินของบริษัทหรือสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุน ยิ่งสินทรัพย์นั้นมีราคาลดต่ำลง ยิ่งทำให้นักลงทุนได้เปรียบมากขึ้น เพราะใช้เงินลงทุนจำนวนเท่าเดิม แต่ได้จำนวนสินทรัพย์ที่มากขึ้นไปอีก

     แต่ข้อเสียเปรียบของนักลงทุน คือ กว่าจะได้รับรู้สรุปงบการเงินออกมาได้ อาจต้องใช้ระยะเวลานานถึง 3 เดือนหรือ 1 ไตรมาส แตกต่างจากเทรดเดอร์ที่มองจากกราฟแล้วพบว่ากราฟมีอาการผิดปกติ มีการเปลี่ยนทิศทางก็จะรักษาวินัยแล้วตัดขาดทุนออก ทำให้เมื่อเวลามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เทรดเดอร์จะขาดทุนเล็กน้อย เมื่อเทียบกับนักลงทุนที่ขาดทุนจำนวนเงินที่เยอะกว่า

     หากเราสังเกตดูอีกจะพบว่า การขาดทุนครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์หรือนักลงทุนก็ตาม ล้วนเกิดจากการที่เราเชื่อมั่นในความคิดของตนเองมากจนเกินไป จนไม่ดูสถานการณ์รอบข้างหรือสภาวะเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ตามมา

     ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์หรือนักลงทุนก็ตาม ให้เราคิดอยู่เสมอว่า ทุกครั้งที่เราเปิดคำสั่งซื้อขาย เราอาจจะผิดพลาดได้เสมอ เมื่อมีความคิดเช่นนี้อยู่ในหัว จะทำให้เราคอยระแวดระวังภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะการลงทุนมีความอ่อนไหว หากมีข่าวใดมากระทบกระเทือนแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม ก็อาจจะทำให้กราฟมีอาการ panic มากเกินความจำเป็นก็ได้