รวมความคิดเห็นจาก Facebook ว่าเป็น Fulltime Trader ดีไหม? ลาออกมาเทรดดีไหม?
เรื่องเล่าก่อนเข้าเรื่องวันนี้ พี่แดงได้เรียบเรียงความคิดเห็นจากใน Facebook ที่มีคนตั้งคำถามว่าเป็น Fulltime Trader ดีไหมและมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร มาแบ่งปันให้รับฟังกันครับ
เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่หลังจากเทรดมาได้สักระยะเวลาหนึ่งแล้วก็มักจะมีความคิดขึ้นมาในหัวว่า หรือเราควรจะผันตัวเองมาเป็น Fulltime Trader ดี แล้วมันจะมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้างนะ ซึ่งพี่แดงได้เรียบเรียงมาจากความคิดเห็นหลากหลายรูปแบบจากหลายร้อยคอมเม้นท์ เลือกเฉพาะคอมเม้นท์ที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังครับ โดยได้ทำการสรุปคร่าว ๆ ได้ประมาณนี้
- ต้องมีความรู้ ตลาดไม่ง่ายนะคะ
- ยากที่สุด คือ สู้กับอารมณ์ความโลภ ความกลัวของตัวเอง วันใดที่คิดว่าตัวเองเก่ง คือ แพ้
- ทำงานประจำไปก่อน เทรดได้กำไรสม่ำเสมอ 2-3 ปีก่อนค่อยลาออกจากงานครับ
- ข้อดี อิสระ ไม่มีใครสั่ง ไม่มีเพื่อนร่วมงาน Toxic กำไรก็ตัวเองเก่ง ขาดทุนก็ตัวเองโง่ ข้อเสีย คือ เครียด แรงกดดันสูง ยิ่งมีภาระยิ่งกดดันมากขึ้นไปอีก
- ข้อดี มีเงิน ข้อเสีย ประสาทนิด ๆ
- มั่นใจเหรอครับว่าคุมเกมส์อยู่
- มีหน้าตักเท่าไหร่ที่จะมาเป็น Fulltime
- 30% เป็นการเคลื่อนที่เป็นเทรนด์ให้เราทำกำไรเป็นกอบเป็นกำได้ ส่วนอีก 70% จะวิ่งออกด้านข้าง หรือเป็นแบบสุ่ม คนที่เลี้ยงชีพได้จากการเทรดต้องจัดการ 70% ตรงนั้นได้ ว่าจะต้องทำอย่างไร
- เหนื่อยใจ เหมือนต้องลุ้นทุกวัน ถ้าชอบความตื่นเต้น แนะนำ
- คนที่จะออกมาเทรด Fulltime สิ่งแรกที่ไม่ควรมีติดออกมาเลย คือ หนี้ ที่เหลือก็ขึ้นกับฝีมือคุณแล้วล่ะ
- ข้อเสียค่อนข้างเยอะ ถ้า Fulltime จะมีอาการแพนิคทุกครั้งที่กราฟวิ่ง เพราะจะพยายามเทรดทุกสินทรัพย์ และอาจจะต้องนั่งเฝ้าจอ ซึ่งไม่ดีมาก ๆ แนะนำให้ดูอารมณ์ตัวเองก่อนเป็น Fulltime ครับ
- ข้อดี คือ อิสระ ไม่มีเพื่อนก็รวยได้ เทรดคนเดียวรวยคนเดียว ข้อเสีย คือ กดดัน เวลาหุ้นร่วงหนัก ๆ อาจหมดตัวไปเลยถ้าไม่มีความรู้
- ก็ลองดู ไม่เสียหายครับ ถ้าดีก็ทำต่อ ถ้าไม่ดีก็กลับไปทำงานที่มันเจริญก้าวหน้าดีกว่าครับ เขาบอกว่ามี 10% ที่สำเร็จ น้องอาจจะเป็นหนึ่งในนั้น แต่พี่เลือกทำในสิ่งที่พี่ถนัดดีกว่า เพราะรู้ว่าหาเงินจากตรงนั้นได้ เติบโตได้ยังไง
- มันเหมือนการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง เราต้องทำการบ้านมาดีมากจึงจะสำเร็จ แต่ตอนที่เจ๊ง มันมักจะมาจากปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้และรับมือกับมันได้ไม่ดีพอ
- ทำงานไปด้วยเทรดไปด้วยก่อนครับ ทำเงินในระยะยาวและมากพอได้ แบบไม่ต้องทำงานประจำสักปี ค่อยคิดดูใหม่ครับ
- ไม่แนะนำให้มาเทรด ถ้าไม่มีความรู้นะคะ
- ข้อดี : กำหนดเงินเดือนให้ตัวเองได้ตามฝีมือ และทำกำไรได้จากการไม่ต้องพูดคุยสื่อสารกับผู้คนเลย เหมาะกับ Introvert มาก
- ข้อเสีย : ถ้า EQ ต่ำและหาวิธีคลายเครียดไม่เป็น ทำไปนาน ๆ อาจจะเป็นบ้าได้ และคนทั่วไปในสังคมมักไม่เข้าใจและไม่เชื่อถือวิธีการทำเงินของเรา (แม้แต่ธนาคาร) เป็นโลกที่เหงาและโดดเดี่ยวมาก แต่ถ้าเก่งก็รวย ยิ่งเก่งมากก็รวยมาก ๆ
- มองว่า 90% ถอย มีแค่ 10% ที่รอด ถ้ามั่นใจว่าตัวเองอยู่ใน 10% ได้ ลุยเลยครับ
- Fulltime Yield สบายสุด ๆ ครับ
- ลองดูครับ ถ้าไม่ใช่ก็แค่ถอยออกมา
- รายได้ไม่แน่นอน แต่รายจ่ายแน่นอน ทำงานประจำดีกว่าครับควรมีทุนสัก 5 ล้าน เทรด+ปันผล รวม 5% ต่อปี ก็จะมีรายได้เดือนละ 2 หมื่น ก็น่าจะอยู่ได้
- ส่วนตัวมองว่ามีรายได้หลายทางย่อมดีกว่า มีอาชีพไว้กันพอร์ตแตก หาเงินเติมพอร์ตไปในตัว
- เหมือนจะอิสระ แต่ไม่อิสระ ต้องกำหนดทุกอย่าง กำหนดเงินที่อยากได้ต่อเดือน อย่าโลภ พยายามหากลยุทธมาปรับตามกราฟ ทุกวินาที คือ การตัดสินใจ ดีที่ไม่ต้องวุ่นวายกับใคร อิสระทางความคิด แต่เครียดกับกราฟแทน ใช้ทุนค่อนข้างเยอะ
- เสี่ยงสูงครับ ไม่ใช่จะได้ตามความคาดหวังเสมอไป ถ้าหากคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ดีพอถึงกับหมดตัวได้เลย ถ้ามีภาระ Fix Cost ต่อเดือนจะยิ่งลำบาก แต่ถ้ารู้จักการ MM ตัวเองที่ดี มีความรู้ ความเข้าใจที่มากพอ ก็พอไปได้ครับ
- อารมณ์เดียวกับลุ้นหวยทุก 15 วันแหล่ะครับ แต่ย่อยมาเหลือแค่วันต่อวัน
- เงินเย็นเยอะ ๆ สบาย ๆ ราว ๆ 15 ล้านบาท น่าจะพอครับ
- ข้อดีของเทรดเดอร์ คือ สบายและรวย
- ข้อเสียของเทรดเดอร์ คือ จนและเครียด
- ระยะเวลาและประสบการณ์จะกล่อมเกลาเรา อาชีพนี้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความพยายามกำไร ขึ้นอยู่กับตลาด
- เครียดค่ะ เพราะตั้งความหวังไว้สูง สำหรับเราต้องหาอย่างอื่นทำควบคู่ไป ไม่งั้นจ้องแต่หน้าจอ
- คิดว่าจุดที่ยากที่สุดของ Fulltime จะต้องถอนเงินออกมาใช้จ่ายค่ะ ถ้าลงมาก ๆ แล้วยังต้องถอนเงินออกมากินใช้ก็จะต้อง Cut Loss อยู่เสมอ เครียดและไม่สามารถวางแผนระยะยาวหรือถือรอได้นาน
- ข้อดี คือ เที่ยวได้ตลอด จะไปไหนก็ได้ ไปนานแค่ไหนก็ได้ ข้อเสีย คือ เครียด ต้องหาเงินไว้ตลอด
- คนทุนน้อยและไม่มีรายได้ส่วนอื่นจะชอบกังวล ถ้าขึ้นหน่อยก็อยากขาย ลงหน่อยก็จิตตก รอนาน ๆ ไม่ได้ สุดท้ายขายขาดทุน
- วันที่พอร์ตแตกหรือขาดทุนรับมือไหวไหม ถ้าไม่กำไรสักอาทิตย์หนึ่ง อยู่ได้ก็ลุยก่อนเป็น Fulltime Trader สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ เงินลงทุน เมื่อมีครบแล้ว ที่เหลือขึ้นอยู่กับดวงแล้วครับ
- ข้อดี สบาย ไม่ต้องมีใครมาบงการชีวิต รายได้ตามความสามารถ ถ้ามีรายได้หลายทางเทรดแล้วสบายใจกว่า และเรื่องอารมณ์จะดีกว่า
- ข้อเสีย ต้องมีทุนสำรอง มีความเครียดสูง ถ้าตังค์หมด พอร์ตแตก แล้วไม่มีธุรกิจรองรับ อาจจะต้องกลับไปทำงาน
- กดดันเกิน และความกดดันนี่แหล่ะที่ทำให้เกิดความผิดพลาด
0 ความคิดเห็น