วิธีปลดหนี้แบบสโนว์บอลล์ ที่ได้ผลจริง 100% เจ้าหนี้หลายราย เคลียร์ง่ายกว่าที่คิด

          วันนี้พี่แดงจะมาพูดถึงปัญหาที่ใครหลาย ๆ คนต้องเผชิญอยู่ นั่นก็คือ หนี้สินที่มีหลากหลายแหล่งที่มา จนบางครั้งทําให้เรารู้สึกท้อแท้ และก็ไม่รู้จะเริ่มต้นแก้ปัญหาหนี้ที่มีโดยเริ่มต้นจากตรงไหนก่อน แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ วันนี้พี่แดงมีแนวทางที่เรียกกันว่า Debt Snowball Repayment ที่จะมาช่วยเราจัดการกับหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

          แต่เราต้องไม่ลืมนะครับว่า การปลดหนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ล้วนเกิดได้เพราะความมุ่งมั่น แล้วก็การวางแผนที่ดี พี่แดงเชื่อว่าทุกคนสามารถปลดหนี้และสร้างความเป็นไทให้กับตัวเองได้ ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยครับ 

          แนวทางการแก้หนี้ด้วยวิธี Debt Snowball Repayment  เป็นการจัดลําดับการจ่ายหนี้ที่ไม่เหมือนกับที่พวกเราเคยได้ยินมา พวกเราอาจจะเคยได้ยินมาว่า เวลาเราจะจ่ายหนี้ ให้เราจ่ายหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน แต่แนวทางของ Debt Snowball Repayment จะแตกต่างกันเล็กน้อย เหมาะสําหรับคนที่มีหนี้เยอะแยะมากมาย พัวพันอีรุงตุงนังไปหมด มีหนี้หลายเจ้า โดยหนี้ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรเครดิตส่วนใหญ่แล้วเนี่ย คนที่ติดอยู่ในห่วงโซ่ของบัตรเครดิตเนี่ยก็จะกู้บัตรที่หนึ่งไปจ่ายบัตรที่ 2 ดึงบัตรที่ 2 ไปจ่ายบัตรที่ 3 เป็นต้น 

          การที่มีหนี้สินหลายเจ้าหรือการมีหนี้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ค่าผ่อนชําระหลายอย่าง ตอนที่เราตัดสินใจผ่อนก้อนแรก เราอาจรู้สึกว่ามันเป็นยอดแค่ 1-2,000 ต่อเดือน ก็ดูเหมือนไม่เยอะ ถูกมั้ยครับ แต่การที่ดูไม่เยอะนี่แหล่ะที่ทําให้เราตัดสินใจที่จะไปผ่อนสินค้าชิ้นที่ 2 ชิ้นที่ 3 หรือชิ้นที่ 4 ต่อไป สิ่งที่หายไป คือ สภาพคล่องในแต่ละเดือนของเรา กลุ่มคนเหล่านี้แหละครับที่พี่แดงแนะนําให้ใช้วิธีการปลดหนี้ด้วย Debt Snowball Repayment 

ขั้นตอนในการปลดหนี้ด้วย Debt Snowball Repayment

1. ทําการสรุปรายการหนี้สินทั้งหมดที่เรามีออกมาก่อนทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นรายการหนี้ที่แบบผ่อนบัตรเครดิตหรือหนี้ที่ผ่อนสินค้าต่าง ๆ เอาทุกรายการเลย ยกเว้น บิลชําระค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายต่อเดือน 
2. เมื่อรวบรวมเสร็จเรียบร้อย ให้เราเรียงลําดับยอดหนี้ โดยให้เรียงลําดับจากยอดหนี้ที่คงค้างชําระจากน้อยที่สุดไปมากที่สุด เช่น มีหนี้บัตรเครดิตใบที่หนึ่ง 100,000 บาท ใบที่ 2 จำนวน 50,000 บาท และใบที่ 3 จำนวน 10,000 บาท ให้เราเรียนดับจากใบที่ 3 ก่อน ก็คือ 10,000 / 50,000 และ 100,000 บาทเรียงลําดับตามยอดหนี้ที่ค้างชําระน้อยที่สุดไปหามากที่สุด
3. หลังจากนั้น ให้เราจ่ายหนี้ทุกรายด้วยจํานวนเงินขั้นต่ําที่เราสามารถชําระได้ เช่น สมมุติว่าหนี้ 100,000 บาท กําหนดชําระขั้นต่ําได้ที่ 1,000 บาท ให้เราจ่าย 1,000 บาท ยอดหนี้จำนวน 50,000 บาทชําระขั้นต่ําได้ที่ 500 บาท เราก็ชําระ 500 บาท เป็นต้น ชำระขั้นต่ำทุกรายการ
4. ยกเว้นรายการที่น้อยที่สุด เช่น รายการหนี้ที่น้อยที่สุดของเรา คือ หนี้สิน 10,000 บาท ให้เราชําระจำนวนมากกว่ายอดชําระขั้นต่ําให้มากที่สุด 2-3 เท่าของยอดชำระขั้นต่ำเป็นอย่างน้อย สมมุติว่าขั้นต่ําที่กำหนดชําระเป็น 200 บาท เราก็จ่ายไปเลย 500 - 1,000 บาท เป็นต้น เพื่อให้เราทําการปิดบัญชีหนี้ก้อนเล็กที่สุดของเราให้เร็วที่สุดก่อน ส่วนยอดหนี้ก้อนอื่นให้ชำระเพียงขั้นต่ำก็พอ
5. ปิดบัญชีหนี้ก้อนเล็กที่สุดให้จบเร็วที่สุด เพราะว่าเมื่อหนี้ก้อนเล็กที่สุดหมดแล้ว ให้เรานําเงินที่เราเคยจ่ายในหนี้ก้อนเล็กก้อนนั้น ไปจ่ายเพิ่มกับหนี้ก้อนเล็กก้อนถัดไป วิธีการชําระหนี้แบบนี้จึงเรียกว่า Debt Snowball Repayment นั่นเอง

          ลูกหิมะ เวลามันกลิ้ง มันจะกลิ้งจากลูกเล็กไปจนกระทั่งลูกใหญ่ถูกไหมครับ ซึ่งวิธีนี้ก็ไม่แตกต่างอะไรกับการที่เรากลิ้งลูกบอลหิมะไปนั่นเอง มันจะเป็นการค่อย ๆ ทยอยทําซ้ําไปเรื่อย ๆ ปลดหนี้ก้อนเล็กก่อนแล้วก็ก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งหนี้สินหมดนั่นเอง 

          แม้ว่าวิธีแก้หนี้แบบนี้จะไม่ได้ทําให้เราประหยัดดอกเบี้ยที่จ่ายในแต่ละครั้งมากที่สุด เนื่องจากว่าแนวทางการแก้หนี้ที่เราอาจจะเคยได้ยินมา บอกว่าให้เราแก้หนี้ในหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน แต่วิธีนี้เราจะแก้หนี้ด้วยจํานวนมูลหนี้ที่น้อยที่สุดไล่ไปจนกระทั่งถึงมากที่สุด ฉะนั้น การแก้หนี้ด้วยวิธีนี้จึงไม่ได้ประหยัดดอกเบี้ยที่สุด แต่จะมีผลในเชิงจิตวิทยามากที่สุด เพราะว่าเจ้าหนี้จะลดลง ทําให้ลูกหนี้รู้สึกว่าเรามีความสามารถปลดหนี้ได้ มีกําลังใจในการจ่ายหนี้รายต่อ ๆ ไปมากขึ้น 

          ลองคิดดูนะครับ หากเราเลือกจ่ายหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงสุดก่อน เราต้องไปคุยเจรจากับเจ้าหนี้ทีละเจ้า การคุยกับคนไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการคุยกับเจ้าหนี้ เพราะฉะนั้น แต่ถ้าใช้วิธี Debt Snowball Repayment นี้ เราจะจ่ายขั้นต่ำทุกรายการ ไม่ได้ผิดชำระหนี้ของใครเลย เพียงแต่จ่ายหนี้ในจำนวนที่น้อยที่สุดที่สามารถจ่ายได้ เพื่อไปแก้ปัญหามูลหนี้ที่น้อยที่สุดให้เต็มกําลังก่อน 

          เราจะรู้สึกว่ายอดหนี้เราลดลงจริง และเราก็ไม่ต้องไปคุยกับเจ้าหนี้อีกด้วย ตรงนี้แหละที่จะเป็นจิตวิทยา ทําให้เรารู้สึกภูมิใจในตัวเอง ไม่บั่นทอนจิตใจตัวเอง แต่การที่เราต้องไปติดต่อเจรจากับเจ้าหนี้ เพื่อขอประนอมหนี้ มันเหมือนกับวันนั้น เราแพ้แล้วนะ 

          เพราะฉะนั้น สําหรับท่านใดที่มีหนี้และเป็นเจ้าหนี้หลายเจ้า แนะนำให้ลองใช้วิธีนี้ดูนะครับ มันจะทําให้เรามีความภูมิใจในตัวเองเพิ่มขึ้นด้วย 

          อย่างไรก็ตามเนอะ การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ทันทีที่เราปลดหนี้ได้หมด มันจะทําให้เรารู้สึกเบาครับ แล้วในหัวเราก็กล้าที่จะคิด กล้าที่จะลงทุน กล้าที่จะลองอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ เพราะว่ามันไม่มีอะไรที่แบกรับ มีเพียงแค่ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่านั้น ผิดกับคนที่ต้องแบกภาระหนี้ไว้บนหลัง จะขยับอะไรก็ไม่ได้ จะเปลี่ยนงานก็กลัวภาระหนี้สินจะผ่อนไม่ไหว อยากจะลาออกเพราะว่าเจ้านายหรือเบื่อเพื่อนร่วมงานเราก็ไม่ได้ เพราะว่ามันมีภาระหนี้สินติดหลัง ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าบัตรเครดิตถูกไหม ถ้าวันนี้เราไม่มีหนี้ เราจะอิสระทางความคิดเป็นอย่างมาก เชื่อพี่แดงได้

สนใจเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นและ TFEX