เริ่มต้นใช้ MT5 เทรดหุ้นไทยและ TFEX ง่ายนิดเดียว! ตอนที่ 5: ToolBox ส่งคำสั่งซื้อ-ขายจริง 

          วิดีโอนี้น่าจะเป็นตอนสุดท้ายของซีรีส์สอนเทรดหุ้นและ TFEX ด้วยโปรแกรม MT5 โดยจะเน้นที่การใช้งานหน้าต่าง ToolBox ซึ่งเป็นส่วนที่แสดงรายละเอียดหลังจากการส่งคำสั่งซื้อขาย รวมถึงรายงานผลการเทรดโดยละเอียดอีกด้วย

ประเด็นหลักที่ครอบคลุมในวิดีโอประกอบด้วย:

• หน้าต่าง Tool Box: หน้าต่างนี้จะแสดงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราส่งคำสั่งซื้อขาย เช่น จะถูกดึง Margin ไปเท่าไหร่ และมีรายงานผลการเทรดโดยไม่ต้องทำบันทึกด้วยตัวเอง รายงานมีรูปแบบกราฟให้เห็นชัดเจน
  
  
• การดูราคาตลาดเปิด: ใน MT5 สามารถดูราคาก่อนตลาดเปิดได้ที่เมนู View แล้วเลือก Depth of Market เลือก TFEX S50 index ซึ่งจะแสดงราคา Open ที่ตรงกับเส้นสีเขียวบนกราฟ
  
  
• วิธีการเปิดคำสั่งซื้อขาย:
  • วิธีที่ง่ายที่สุด สำหรับ TFEX S50 คือ One-Click Trading การเปิด Long (Buy) คือ มองว่าตลาดจะขึ้น การกด One-Click Trading ที่ฝั่ง Buy (Long) เท่ากับการ ตบขวา ซึ่งเป็นการซื้อที่ราคาตลาดปัจจุบัน (MP) สามารถปรับจำนวนสัญญา (Volume) ได้ การคลิกครั้งแรกจะต้องกดยอมรับเงื่อนไข One-Click Trading ก่อน
  • เมื่อเปิดออเดอร์แล้ว รายละเอียดคำสั่งจะแสดงขึ้นมา เช่น สัญลักษณ์ (S50M25), Ticket (รหัสออเดอร์), วันเวลาที่เปิด, ประเภทคำสั่ง (Buy), จำนวนสัญญา, ราคาที่เปิด จะเห็นราคาปัจจุบันและกำไร/ขาดทุนที่เกิดขึ้น
  • การคำนวณกำไร/ขาดทุนใน TFEX: การขยับ 1 จุดมีค่าเท่ากับ 200 บาท จุดย่อย (Tick size) มีค่าเท่ากับ 0.1 จุด ซึ่งเท่ากับ 20 บาท
  • การเปิดคำสั่งผ่านหน้าต่าง New Order: สามารถทำได้โดยไปที่เมนู New Order หากจะเทรด ณ ตอนนั้นเลย ให้เลือก Type เป็น Market Execution ซึ่งเหมือน One-Click Trading สามารถใส่จำนวนสัญญา ตั้ง Stop loss และ Take profit ล่วงหน้าได้ในหน้านี้ แนะนำให้เปิด New Order จากหน้าต่างกราฟของสินค้าที่ต้องการเทรดเท่านั้น ป้องกันความผิดพลาด
  • การตั้งคำสั่ง Pending Order: สำหรับการตั้งคำสั่งล่วงหน้า ให้เลือก Type เป็น Pending Order มีคำสั่ง Pending Order ทั้งหมด 6 แบบ ตัวอย่างที่กล่าวถึง คือ Buy Limit (ตั้งซื้อต่ำกว่าราคาปัจจุบัน) และ Sell Stop (ตั้งขายต่ำกว่าราคาปัจจุบัน) คำสั่งเหล่านี้จะยังไม่เปิดจนกว่าราคาจะมาถึงระดับที่กำหนด

• Margin: สำหรับ 1 สัญญาของ S50M25 ต้องวาง Initial Margin (IM) ประมาณ 13,545 บาท IM จะถูกดึงออกไปและแสดงใน ToolBox เป็นค่าติดลบ หากเปิด 2 สัญญา IM จะถูกดึงเป็น 2 เท่า IM สำหรับ Gold TFEX จะสูงกว่า (ประมาณ 69,000 บาท) Equity คือเงินทุนรวมกับกำไร/ขาดทุนที่ยังไม่ปิดออเดอร์ ซึ่งจะขยับไปมาตลอดเวลา
  
  
• การตั้ง Stop Loss และ Take Profit:
  • วิธีที่ยาก: คลิกขวาที่ออเดอร์ใน ToolBox เลือก Modify or delete แล้วระบุตัวเลขราคา Stop loss และ Take profit สามารถตั้งเป็นจำนวนจุด (เช่น 5 จุด คือ 50 Tick size)
  • วิธีที่ง่ายที่สุด (On-Chart Trading): ลากเส้น Stop loss และ Take profit ได้โดยตรงบนกราฟ สำหรับออเดอร์ Buy/Long ให้ลากจากเส้นราคาที่เปิดออเดอร์ลงมาเพื่อตั้ง Stop loss และลากขึ้นไปเพื่อตั้ง Take profit การลากเส้นทำให้ไม่ต้องจำตัวเลขและเห็นภาพชัดเจน
  • สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งของเส้น Stop loss และ Take profit บนกราฟได้ด้วยการลาก
  • สามารถตั้ง Stop loss และ Take profit ล่วงหน้าสำหรับคำสั่ง Pending Order ได้
  • การลบเส้น Stop loss และ Take profit ทำได้ง่ายมากโดยการคลิกเครื่องหมายกากบาทหรือจากหน้าต่าง ToolBox
    
    
• การปิดคำสั่งซื้อขาย:
  • วิธีที่ง่ายที่สุด (MP): คลิกเครื่องหมายกากบาทข้างออเดอร์ใน ToolBox ซึ่งเปรียบเสมือนการปิดที่ราคาตลาด (MP) เช่น การปิด Long เท่ากับการ ตบซ้าย (Short close) ข้อควรระวัง คือหากเปิดหลายสัญญา อาจไม่ได้ราคาที่ต้องการทั้งหมด หากฝั่งตรงข้ามมีสภาพคล่องไม่พอ
  • วิธีที่แนะนำสำหรับราคาเป๊ะๆ: เลื่อนเส้น Take Profit ไปยังระดับราคาที่ต้องการปิด เมื่อราคาตลาดถึงเส้น TP ระบบจะปิดออเดอร์ให้ตามราคาที่ตั้งไว้ ทำให้รู้กำไรที่แน่นอน
    
    
• ค่าธรรมเนียมการเทรด TFEX: สำหรับ Pi Securities (บล.พาย) ค่าธรรมเนียม 1 สัญญาไปกลับ (ซื้อ-ขาย) คือ 53.50 บาท (25 บาท ค่าคอมฯ ตอนซื้อ + 25 บาท ค่าคอมฯ ตอนขาย + VAT 7%) ต้องนำค่าธรรมเนียมนี้ไปหักลบกับกำไรที่ได้
  
  
• การดูรายงานผลการเทรด: ในหน้าต่าง ToolBox ให้คลิกขวาแล้วเลือก Report จากนั้นเลือก Overview รายงานจะแสดงผลรวมกำไร/ขาดทุน มีข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น Maximum Drawdown, Profit Factor, จำนวน Trade per week, Max Deposit Load มีกราฟแสดงการเติบโตของพอร์ต สามารถปรับช่วงเวลาของรายงานได้ เช่น Today, Last week, Last month, Custom period รายงานยังบอกสัดส่วนการเทรด Long/Short และ Manual/Robot เป็นแผนภูมิวงกลม
  
  
• โปรแกรม MT5 และโบรกเกอร์: ปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทยที่ให้บริการ MT5 มีเพียง บล.พาย เจ้าเดียว MT4 เทรดได้เฉพาะ TFEX ส่วน MT5 เทรดได้ทั้งหุ้นและ TFEX และ MT5 เป็นเวอร์ชันใหม่กว่า มีการพัฒนาต่อเนื่อง มีเครื่องมือและอินดิเคเตอร์ใหม่ ๆ รวมถึงฟังก์ชัน Copy Trade และการเป็น Master Trade อีกด้วย
  
  
• การเปิดบัญชีกับ บล.พาย: สามารถสแกน QR Code เพื่อสมัครผ่านมือถือได้เลย การสมัครจะทำผ่านแพลตฟอร์มของ Settrade แล้วส่งข้อมูลไปที่ บล.พาย สามารถใช้รหัสผู้แนะนำการลงทุน 4427  และรหัส IBA : C022 เพื่อเข้าร่วมกลุ่มเทรดได้

          

          สรุป วิดีโอสอนการใช้งานพื้นฐานของโปรแกรม MT5 สำหรับการเทรดหุ้นและ TFEX ตั้งแต่การเปิดคำสั่งซื้อขายด้วยวิธีต่าง ๆ (One-Click Trading, New Order, Pending Order), การตั้งและปรับเปลี่ยน Stop Loss และ Take Profit ทั้งแบบใส่ตัวเลขและการลากเส้นบนกราฟ, การดู Margin และการคำนวณกำไร/ขาดทุนเบื้องต้น, การพิจารณา ค่าธรรมเนียม, และการเข้าถึง รายงานผลการเทรด ที่ละเอียดและปรับช่วงเวลาได้ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ MT5 ในไทยปัจจุบัน.