มุมมองของสองเทรดเดอร์ เทรดแบบไหนก็ได้ สำเร็จเช่นกัน

          วิดีโอนี้พี่แดงแบ่งปันมุมมองการเทรดของเทรดเดอร์ 2 ประเภท คือ เทรดเดอร์ที่เน้นเรื่องของ Risk Reward Ratio และเทรดเดอร์ที่เน้น Win Rate ซึ่งไม่มีใครถูกหรือผิด ขึ้นอยู่กับจริตของเทรดเดอร์แต่ละท่าน 

• มุมมองของ 2 เทรดเดอร์

• การเทรดเป็นอาชีพที่เข้าถึงง่าย แต่การจะประสบความสำเร็จต้องมีทักษะ.
• เทรดเดอร์คนที่ 1 (เทรดเดอร์มือใหม่/กลัวตกรถ):
  • มักจะ กลัวตกรถ (FOMO) จึงรีบเข้าออเดอร์ทันทีที่เห็นกราฟพุ่งขึ้น หลังจากที่พลาดโอกาสครั้งก่อน.
  • เน้นมองแต่ กำไร และไม่สนใจความเสี่ยง ไม่มีการตั้งจุด Take Profit (ทำกำไร) หรือ Stop Loss (ตัดขาดทุน).
  • อาจลงเงินทั้งหมด (หมดหน้าตัก) โดยไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจทำให้เงินทุนหมด.
  • ต้องจ้องหน้าจอและกราฟตลอดเวลา.
• เทรดเดอร์คนที่ 2 (เทรดเดอร์เชิงระบบ/บริหารความเสี่ยง):
• ไม่มีเวลาเฝ้าหน้าจอเพราะทำงานประจำ แต่รู้ว่าเงินสามารถทำงานให้ได้.
• วางแผนการเทรดอย่างเป็นระบบ โดย มองความเสี่ยงเป็นสิ่งแรก ก่อนมองกำไร.
• กำหนดความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (เช่น 0.21% ของเงินลงทุน).
• ตั้ง Risk-Reward Ratio (อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน) เช่น 1:3 หมายความว่าหากขาดทุน ยอมเสีย 1 ส่วน แต่หากได้กำไร ต้องการ 3 เท่า.
• เมื่อเปิดออเดอร์แล้วจะตั้ง Take Profit และ Stop Loss ทิ้งไว้ แล้วไปทำงานหรือใช้ชีวิต ไม่ต้องเฝ้าจอ. วิธีนี้เป็นหนทางสู่การเป็นเทรดเดอร์ที่อยู่รอดได้ในระยะยาว.

• ความสัมพันธ์ระหว่าง Risk-Reward Ratio และ Win Rate

  • Win Rate (อัตราความแม่นยำ) คือ ความสามารถในการเดาถูกมากกว่าผิด.
  • อัตราส่วน 1:1 (Risk-Reward Ratio): หาก Win Rate 50% คือ จุดคุ้มทุน (Break-Even). หาก Win Rate >50% คือ กำไร.
  • อัตราส่วน 1:2: แม้ Win Rate ต่ำเพียง 40% ก็ยังมีโอกาสทำกำไรได้ เพราะทุกครั้งที่ผิดเสีย 1 ส่วน แต่ทุกครั้งที่ถูกได้ 2 ส่วน.
  • อัตราส่วน 1:3: ต้องการ Win Rate เพียง 30% ก็สามารถทำกำไรได้.
  • อัตราส่วน 1:4: จุดคุ้มทุนอยู่ที่ Win Rate เพียง 20%.
  • การเทรดไม่ได้จำเป็นต้องเข้าแม่นยำเสมอไป ขอแค่บริหารเงินลงทุนที่เหมาะสมและมี Risk-Reward Ratio ที่ดี.

• เทรดเดอร์ที่มีแนวทางการเทรดแตกต่างกัน

  • Sniper Trader: เน้นการเทรดที่ Win Rate สูง (เช่น 80% ขึ้นไป) แต่ Risk-Reward Ratio อาจจะต่ำ (เช่น 1:1 หรือน้อยกว่า). ต้องทนรับแรงกดดันได้สูงและแม่นยำมาก. เน้นการทำกำไรเร็วและเล่นรอบ.
  • Risk-Reward Trader: เน้นการเทรดที่ Risk-Reward Ratio สูง (เช่น 1:3 หรือ 1:4) ต้องอ่านภาพรวมหรือกราฟระยะยาวได้ดี. การเทรดแบบนี้ทำให้มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้มากกว่า.

• ข้อแนะนำสำหรับเทรดเดอร์ใหม่

• สิ่งสำคัญที่สุดคือการ เก็บสถิติการเทรดของตัวเองย้อนหลัง (อย่างน้อย 100 ออเดอร์ขึ้นไป) เพื่อทราบความแม่นยำและจังหวะเข้าที่ดี.
• ปัจจุบันสามารถเก็บสถิติได้ง่ายด้วยโปรแกรมอย่าง MT4 หรือ MT5.
• เมื่อรู้สถิติแล้ว จะสามารถ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเทรดได้ (เช่น จาก 1% เป็น 2-5% ต่อครั้ง) ซึ่งจะเพิ่มกำไรได้มหาศาล.