Banner_Head

Banner_Post

ฝากเงินรอซื้อหุ้น ดอกเบี้ยเข้ากระเป๋าแบบไม่รู้ตัว!

 


ฝากเงินรอซื้อหุ้น ดอกเบี้ยเข้ากระเป๋าแบบไม่รู้ตัว!

          วิดีโอนี้กลับมาสู่เนื้อหาเบา ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินลงทุนของเราสักนิดกันดีกว่า รู้หรือไม่! ฝากเงินในบัญชีบริษัทหลักทรัพย์เพื่อรอซื้อหุ้น เงินส่วนนี้เราได้รับดอกเบี้ยด้วยนะครับ 


  • การรับดอกเบี้ยจากเงินฝากในบริษัทหลักทรัพย์:

    • ความแตกต่างระหว่าง Line Available และ Cash Balance:
      • Line Available คือ วงเงินที่เราสามารถใช้ซื้อขายหุ้นได้ทันที ซึ่งจะปรับยอดตามการซื้อขาย.
      • Cash Balance คือ เงินที่เราสามารถถอนได้ ซึ่งจะได้รับดอกเบี้ยจากเงินจำนวนนี้ นั่นคือเงินที่ไม่ได้นำไปซื้อหุ้น หรือเงินจากการขายหุ้นที่ผ่านรอบการชำระเงิน T+1 หรือ T+2 แล้ว.
      • ดังนั้น หากเราฝากเงินจำนวนมากแต่ซื้อหุ้นเกือบทั้งหมด เราก็จะได้รับดอกเบี้ยจาก Cash Balance เพียงเล็กน้อย แต่หากเราฝากเงินไว้เฉย ๆ เพื่อรอจังหวะซื้อหุ้น เราก็จะได้รับดอกเบี้ยจากเงินจำนวนนั้นเต็มที่.
    • อัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาการจ่าย:
      • สำหรับบริษัทหลักทรัพย์พาย ดอกเบี้ยสำหรับเงินฝากปัจจุบันอยู่ที่ 0.2% ต่อปี
      • ดอกเบี้ยหุ้นจะคิดและจ่าย ทุกเดือน และมีรายงานแจ้งทางอีเมล (Pi security Monthly Statement).
      • สำหรับ TFEX จะคิดดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และมีรายงานแจ้งทางอีเมล (derivative Monthly Statement) แต่บางบริษัทหลักทรัพย์อาจจ่ายทุกเดือน.
      • ดอกเบี้ยที่ได้รับจะโอนเข้าพอร์ตเทรดในบริษัทหลักทรัพย์โดยตรง.
    • บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นธนาคาร (เช่น กรุงเทพ, กรุงไทย, กรุงศรี, กสิกร) มักจะมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหุ้นแพงกว่าบริษัทหลักทรัพย์ทางเลือกที่ไม่มีธนาคารหนุนหลัง (เช่น พาย, บียอนด์, Liberator) ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า. บางโบรกเกอร์ที่ค่าธรรมเนียมถูกมาก อาจจะไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยให้.






  • การสร้างรายได้เพิ่มเติมผ่าน SBL (Stock Borrowing and Lending):

    • พี่แดงแนะนำอีกวิธีในการสร้างรายได้ คือ การปล่อยหุ้นที่เราถืออยู่ให้ผู้อื่นยืม (SBL) เพื่อนำไป Short Sell.
    • วิธีนี้จะทำให้เราได้รับดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้หุ้น
    • แม้หุ้นจะถูกยืมไปแล้ว เราก็ยังคงสามารถซื้อขายหุ้นตัวนั้นได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องทำผ่านแอปพลิเคชัน ไม่ใช่ทำผ่าน Streaming.
    • เป็นการเพิ่มผลตอบแทน นอกเหนือจากเงินปันผลที่ได้รับจากการถือหุ้นอยู่แล้ว เช่น หากได้รับปันผล 7% และดอกเบี้ย SBL อีก 3% ก็เท่ากับได้รับผลตอบแทนรวม 10% ต่อปี.

  • การเลือกโบรกเกอร์:
    • พี่แดงให้ความสำคัญกับการบริการของ Marketing เป็นหลัก โดยเลือกโบรกเกอร์ที่มี Marketing ที่สามารถประสานงาน ติดต่อ และตอบคำถามช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น

Banner_Post2