3 พฤติกรรมที่ทำให้พอร์ตแดง หยุดทำก่อนสายไป!

  เทรดเดอร์น้องใหม่บางคน อาจสงสัยว่า เราเองก็ทุ่มเทดูกราฟอยู่ตลอดเวลา แต่ทำไมยังเทรดไม่ได้กำไรสม่ำเสมอเหมือนคนอื่นเขาเสียที พี่แดงอยากจะบอกว่า มีนิสัยการเทรดอยู่ 3 ประการที่ควรหยุดทำ หากต้องการให้พอร์ตของเราเติบโตอย่างสม่ำเสมอและมั่นคง ส่วนเนื้อหาจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามรับชมกันได้เลยครับ 

          ต่อไปนี้คือ 3 นิสัยที่ควรหยุดทำ พร้อมแนวทางแก้ไขที่ตรงจุด:

1. หยุดเทรดเหมือนนักพนัน แล้วเริ่มสร้างแผนการเทรดที่ชัดเจน

พฤติกรรมที่ต้องหยุด:

• การเทรดโดยไม่มีแผนการ หรือที่เรียกว่า "เทรดตามอารมณ์" (เช่น เห็นกราฟพุ่งแล้วรีบกดซื้อเพราะกลัวตกรถ หรือเชื่อข่าวลือจากกลุ่มไลน์)
• การเทรดลักษณะนี้ไม่ต่างจากการโยนหัวก้อย เพราะเป็นการพนันล้วน ๆ แม้จะได้กำไรบ้างในวันที่มีโชค แต่ก็ไม่รู้ว่าได้มาเพราะอะไร และจะขาดทุนทั้งหมดในพริบตาเมื่อดวงไม่ดี
• ผลร้ายแรงที่สุด คือ เราจะไม่ได้เรียนรู้บทเรียนใด ๆ ทำให้ไม่สามารถเก่งขึ้นได้เลย ความมั่นใจจะหายไป เหลือแต่ความกลัวและความเครียด สุดท้ายเงินทุนในพอร์ตก็จะค่อย ๆ หายไป

ทางแก้:

• ต้องอัปเกรดตัวเองจากนักพนันไปเป็น นักธุรกิจ ซึ่งหัวใจสำคัญ คือ แผนการเทรด
• ก่อนกดซื้อขายทุกครั้ง ต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ชัดเจน:
  1. จุดเข้าซื้อ (Entry) คือตรงไหน: ต้องมีสัญญาณชัดเจนตามระบบ ไม่ใช่แค่ความรู้สึก
  2. จุดยอมแพ้/จุดตัดขาดทุน (Stop Loss) คือตรงไหน: ต้องกำหนดไว้เสมอเพื่อรักษาเงินทุน การเทรดที่ไม่มี Stop Loss เปรียบเหมือนการขับรถซิ่งที่ไม่มีเบรก
  3. จุดขาย/จุดทำกำไร (Take Profit) คือตรงไหน: ต้องมีจุดทำกำไรที่สมเหตุสมผล อาจใช้ Risk-Reward Ratio (เช่น Take Profit ควรเป็น 1 เท่าขึ้นไปของ Stop Loss)
  4. ขนาดของความเสี่ยง(Position Sizing): มืออาชีพส่วนใหญ่มักเสี่ยงไม่เกิน 1-2% ของพอร์ตต่อครั้ง
• การมีแผนช่วย ตัดอารมณ์ความโลภและความกลัว ออกไปได้ ทำให้การเทรดมีหลักการมากขึ้น และแม้ขาดทุนก็จะรู้ว่าพลาดเพราะอะไร

เปิดบัญชี บล.พาย เทรดหุ้นและ TFEX ด้วย MT5

2. หยุดทำผิดซ้ำซาก แล้วเริ่มต้นจดบันทึกการเทรด (Trading Journal) เสียที

พฤติกรรมที่ต้องหยุด:

• การไม่ทบทวนการเทรดของตัวเอง ปล่อยให้ตัวเองเดินตกหลุมเดิมซ้ำ ๆ
• การเปิดออเดอร์ต่อทันทีด้วยความหัวร้อนหลังโดน Stop Loss โดยไม่เคยหยุดถามตัวเองว่าพลาดตรงไหน เป็นการโยนบทเรียนราคาแพงที่ตลาดสอนทิ้งไปเปล่า ๆ
• ตัวอย่างความผิดพลาดซ้ำ ๆ ได้แก่ การเข้าซื้อเพราะกลัวตกรถ (FOMO), การแอบเลื่อน Stop Loss , หรือการโอเวอร์เทรดจนพอร์ตพัง
• การทำผิดซ้ำซากทำให้รู้สึกย่ำอยู่กับที่ ไม่ได้พัฒนา ทั้งที่ทุ่มเทเวลาไปมาก และเริ่มโทษทุกสิ่งรอบตัวยกเว้น ตัวเอง

ทางแก้:

• ทำสิ่งที่เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จทำ คือ จดบันทึกการเทรด (Trading Journal)
• Trading Journal คือ กระจกเงาที่สะท้อนพฤติกรรมของเราอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่แค่การจดกำไร/ขาดทุน
• สิ่งที่ควรบันทึก เช่น วันที่เทรด, เหตุผลในการเข้า, ภาพหน้าจอจุดเข้า, ผลลัพธ์ (กำไร/ขาดทุน), ทำตามแผนหรือไม่, อารมณ์ใดเข้าแทรกแซง, สิ่งที่ทำได้ดี และสิ่งที่ควรปรับปรุง
• เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ จะเริ่มเห็น รูปแบบความผิดพลาด ของตัวเองชัดเจนขึ้น (เช่น มักเจ๊งเวลาเทรดสวนเทรนด์ หรือมักขายหมูเสมอ) ทำให้สามารถแก้ไขได้ตรงจุด

3. หยุดตามล่าหาจอกศักดิ์สิทธิ์ (Holy Grail) ที่ไม่มีวันเจอ

พฤติกรรมที่ต้องหยุด:

• การเปลี่ยนระบบเทรดไป ๆ มา ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด หรือการไล่ล่าหา Holy Grail
• การลองระบบใหม่ (เช่น จาก YouTube) ชนะ 2 ครั้ง คิดว่าเป็นระบบเทพ พอแพ้ติดกันก็ตัดสินว่าไม่เวิร์คแล้วโยนทิ้ง แล้วไปหาอินดิเคเตอร์หรือกลยุทธ์ใหม่
• การทำเช่นนี้ทำให้เสียเวลาชีวิต เพราะจะไม่มีวันเชี่ยวชาญในกลยุทธ์ใดเลย จะมีความรู้ท่วม แต่ไม่เคยทำเงินได้จริงอย่างสม่ำเสมอ และไม่เชื่อมั่นในระบบของตัวเอง

ทางแก้:

• จอกศักดิ์สิทธิ์หรือระบบที่ชนะ 100% ไม่มีอยู่จริง
• สิ่งที่ต้องทำคือการหากลยุทธ์ที่เข้ากับสไตล์ของเรา เพียง 1 หรือ 2 อย่าง แล้ว ฝึกฝนจนชำนาญ
• ขั้นตอนคือ:
  1. เลือกแนวทางการเทรดที่เหมาะสมกับสไตล์ชีวิตและนิสัยส่วนตัว
  2. ทำการทดสอบ (Backtest หรือบัญชี Demo) เพื่อดูว่ามีสถิติตรงตามที่คาดหวัง และเรายอมรับกับความผิดพลาดในระบบได้มากน้อยแค่ไหน
  3. ฝึกฝน ปรับปรุง และปรับแก้ระบบให้คมขึ้น และเข้ากับจริตของเรามากที่สุด

ข้อคิดสรุป: ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้มาจากการรู้เยอะ แต่มาจากการทำสิ่งเดียวที่รู้ซ้ำ ๆ จนเชี่ยวชาญ (อ้างอิงคำกล่าวของบรูซ ลี ที่ว่าไม่กลัวคนที่ฝึกเตะหมื่นท่า แต่กลัวคนที่ฝึกเตะท่าเดียว 10,000 ครั้ง) เส้นทางเทรดเดอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีวินัยและทนต่อแรงกดดันสูง ความสำเร็จมาจากการ เลิกทำในสิ่งที่ผิดและเริ่มทำในสิ่งที่ถูกต้องอย่างมีวินัย

เปิดบัญชี บล.บียอนด์ เทรดหุ้นและ TFEX ด้วย TradingView