6 แนวคิด ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน วางแผนสร้างความมั่งคั่งด้วยตัวเราเอง
การที่ชีวิตผิดพลาดไปในวันนี้ ใช่ว่าเราจะไม่สามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้อีก ล้มแล้วยังสามารถลุกขึ้นได้ การดำเนินชีวิตก็เช่นเดียวกัน ผิดพลาดแล้วก็แก้ไข พัฒนาต่อไปเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างที่ดีขึ้นกว่าเดิม เชื่อมั่นในใจเสมอว่า เรายังสามารถเป็นคนเดิมที่ดีกว่าเดิมได้ บทความและคลิปในวันนี้เป็นแนวคิด 6 ข้อที่พี่แดงวางแผนไว้ในปี 2022 ว่าหากต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เราต้องทำอะไรบ้าง จึงนำมาแบ่งปันไอเดียกันครับ
1.ตั้งเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวของตนเอง ส่วนใหญ่คนที่ประสบความสำเร็จ จะมีเป้าหมายอยู่ในใจของตนเองแทบทุกคน โดยสามารถแบ่งเป้าหมายคร่าว ๆ ได้ดังนี้
- เป้าหมายระยะสั้น คือ เป้าหมายที่ต้องการจะทำในระยะเวลาน้อยกว่า 1 ปี
- เป้าหมายระยะกลาง คือ เป้าหมายที่อยู่ระหว่าง 1-10 ปี
- เป้าหมายระยะยาว คือ เป้าหมายที่ตั้งใจจะทำให้ได้ในเวลา 10 ปีขึ้นไป
2.สร้างแหล่งที่มาของรายได้เพิ่มขึ้น อย่ามีรายได้เพียงแค่แหล่งเดียว ควรมีอย่างน้อย 3 ช่องทางขึ้นไป และอย่าให้ช่องทางใดช่องทางหนึ่งมีรายรับเกิน 50% ของรายได้รวมทั้งหมด เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง ไม่ให้แหล่งที่มาของรายได้มีความสำคัญเพียงแห่งใดแห่งหนึ่งเท่านั้น
แนวความคิดนี้ อาจแตกต่างจากที่เคยได้ยินมาว่า ควรเชี่ยวชาญในสิ่งที่ทำอยู่ให้ลึกซื้งแล้วเราจะสร้างรายได้จากมันได้มหาศาล แต่โดยความเห็นส่วนตัว พี่แดงกลับคิดว่า เราไม่สามารถรู้ได้ว่าสิ่งที่เรากำลังทุ่มเทอยู่นั้น เราเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นจริง ๆ หรือไม่ เรามีความสุขที่จะทำสิ่งในนั้นในระยะยาวหรือไม่ หากเราทุ่มเทกับสิ่งนั้นไประยะเวลาหนึ่งแล้วคิดว่าไม่ใช่ตัวเรา ต้องเสียเวลาไปนานและขาดความรู้ความเชี่ยวชาญด้านอื่นอีกด้วย ครั้นจะกลับตัวก็ได้ไม่คุ้มเสียเสียแล้ว จึงทำให้พี่แดงคิดว่า การมีรายได้หลายช่องทางดีกว่า แล้วค่อยเปรียบเทียบว่า รายได้ทางใดเป็นรายได้ที่เราถนัดและชอบ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า
3.พยายามสร้างรายได้จาก Passive Income ควบคู่กันไปด้วย อย่าทำงานด้วย Active Income เพียงอย่างเดียว เพราะเราจะเหนื่อยในอนาคต
รายได้จาก Active Income เปรียบเสมือนก๊อกน้ำที่มีเซ็นเซอร์ล้างมือ เมื่อเรายืดมือเข้าไปบังเซ็นเซอร์ น้ำจึงไหลออกมา เมื่อเราดึงมือออก น้ำก็หยุดไหล เปรียบเสมือนรายได้ หากเราไม่ทำงานรายได้ก็หยุดนั่นเอง ส่วนรายได้แบบ Passive Income เปรียบเสมือนก๊อกน้ำที่เป็นหัวก๊อกแบบหมุน เมื่อเราหมุนเปิดน้ำไหลออกมาแล้ว น้ำยังคงไหลเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะไปบิดก๊อกให้กลับสู่ที่เดิม เปรียบเสมือนรายได้แบบ Passive Income ถึงแม้ว่าเราหยุดทำงาน แต่สินทรัพย์ที่มียังคงสร้างรายได้ให้เราอย่างต่อเนื่อง โดยที่เราไม่ต้องดูแลหรือดูแลบ้างเป็นบางเวลา
ยกตัวอย่าง เช่น จากที่เคยตั้งเป้าหมายว่า ต้องการมีเงินเก็บ 10 ล้านบาท เพื่อไว้ใช้หลังเกษียณ ด้วยการทยอยถอนเงินออกมาใช้เดือนละ 100,000 บาท เราเปลี่ยนความคิดมาเป็น มีเงินเก็บเพียงแค่ 5 ล้านบาท แล้วหารายได้แบบ Passive Income ที่สามารถจ่ายเงินออกมาได้เดือนละ 50,000 บาทแทน
4.โฟกัสที่เหตุแล้วผลจะตามมาเอง เช่น ต้องการมีความรู้ที่มากขึ้น เราก็ต้องอ่านหนังสือ ต้องการเก่งในเรื่องใด เราก็ต้องศึกษาในเรื่องนั้น หากเราโฟกัสแต่ผลงานที่ต้องการ โดยไม่ทำเหตุให้เกิดขึ้น อย่างไรเสีย เราก็ยังคงย่ำอยู่กับที่ โดยมีเพียงแค่ความคาดหวังเท่านั้น
5.ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และบัญชีงบดุล การที่เรามีรายได้ หน้าที่ในการเป็นพลเมืองที่ดี คือ การจ่ายภาษี ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะมีค่าใช้จ่ายภาษีกันทุกคน เพราะบางคนเมื่อคำนวณออกมาแล้วยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีก็มี ยุคสมัยนี้ มีเทคโนโลยี AI และเทคโนโลยีทางการเงินที่ก้าวหน้ามาก โอกาสที่เราจะจับจ่ายใช้สอยผ่านทาง Application ธนาคารมีสูงมากขึ้น ทำให้โอกาสในการหลบเลี่ยงการตรวจจับรายรับต่าง ๆ จึงทำได้ยากขึ้นด้วย รวมทั้งยังมีกฎหมายที่ออกมาเพื่อช่วยในการตรวจสอบภาษีของกรมสรรพากรเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย
6.หาสไตล์การเทรดของตนเองให้เจอ ในมุมมองของการเทรดนั้น เราสามารถเป็นเทรดเดอร์ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสาย VI หรือสาย Technical หรือแม้แต่ในสายเทคนิคคอลก็ยังมีแตกแยกย่อยลงไปอีกเป็นแต่ละวิธีการเทรด เช่น รันเทรนด์ สวิงเทรด Breakout หรือใช้ Robot ช่วยเทรด เป็นต้น หาให้ได้ว่าเราเป็นคนชอบเทรดตามเทรนด์หรือสวนเทรนด์ เพราะหากเราเป็นเทรดเดอร์ที่ชอบเทรดตามเทรนด์ แต่ลงอินดิเคเตอร์ RSI ซึ่งเป็นอินดิเคเตอร์ดูว่าซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไปหรือยัง นั่นเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับการเทรดสวนเทรนด์ ก็จะเป็นการใช้เครื่องมือผิดแนวทางของตนเอง ไม่มีรูปแบบการเทรดใดที่ถูกต้อง 100% เพราะเทรดเดอร์แต่ละคนล้วนมีสไตล์หรือสภาวะการเทรดที่แตกต่างกัน การเทรดจึงไม่มีถูก ไม่มีผิด
0 ความคิดเห็น