สอนเทรด จุดเข้าออเดอร์ของเทรดเดอร์ 3 สไตล์ เทรดสวนเทรนด์ เทรดตามเทรนด์ รอกราฟคอนเฟิร์มจุดกลับตัว

     อยากเป็นเทรดเดอร์ที่ใช้ Risk Reward Ratio ในการ Money Management แต่พอเทรดจริง เป็นไปได้ยาก กราฟมักจะไปไม่ถึงเป้าหมายที่เล็งไว้ ซึ่ง RRR และอัตราส่วน Win Rate นั้น มีความสัมพันธ์กับระบบการเทรดด้วย คลิปและบทความนี้ พี่แดงได้แบ่งลักษณะการเทรดออกเป็น 3 แนวทางด้วยกัน น่าจะคลายความสงสัยของเทรดเดอร์ได้ครับ

     1.เทรดสวนเทรนด์ การเทรดในลักษณะนี้ต้องการเข้าออเดอร์ในจุดที่ต่ำสุดหรือสูงสุด ซึ่งเป็นการเทรดที่ค่อนข้างยาก มีโอกาสผิดพลาดสูง อินดิเคเตอร์ที่ใช้เช่น RSI, Stochastic, fractals, williams เป็นต้น 

     นอกจากนั้น ยังมีการเทรดด้วยแนวรับ-แนวต้านหรือ Demand-Supply อีกด้วย (ในคลิปพี่แดงได้อธิบายเบื้องต้นถึงความแตกต่างของแนวรับ-แนวต้านและ Demand-Supply ด้วยนะครับ) การเทรดด้วย Fibonacci และ Pivot Point ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางเช่นกัน

     เนื่องจากเป็นการเทรดที่มีโอกาสผิดพลาดสูง ดังนั้น จึงต้องตั้งจุด Stop Loss เอาไว้เสมอ หากผิดทางมีโอกาสที่กราฟจะไปต่อ แต่หากถูกทางกราฟกลับทิศ เราจะได้อัตราส่วน Risk Reward Ratio ที่ค่อนข้างสูง ในขณะที่ Win Rate ได้เปอร์เซ็นต์ที่ต่ำ เทรดเดอร์ที่เทรดแนวนี้นอกจากจะต้องมีความกล้าในการคัตลอสแล้ว ยังต้องมีความกล้าในการรันเทรนด์ให้ได้ไกล ๆ อีกด้วย

     2.เทรดรอคอนเฟิร์ม ซึ่งเทรดเดอร์สไตล์นี้จะเน้นความถูกต้องเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย จึงทำให้อัตรา Win Rate สูงขึ้นกว่าเทรดเดอร์กลุ่มแรก ซึ่งการรอคอนเฟิร์มนั้นมีวิธีการรอได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การรอคอนเฟิร์มด้วยแท่งเทียนกลับตัว หรือการเทรดด้วยอินดิเคเตอร์คอนเฟิร์ม เช่น EMA, MACD, ADX, Swing, Bollinger Band ซึ่งการเทรดด้วยการใช้อินดิเคเตอร์นั้น กว่าที่จะพล็อตออกมาเป็นอินดิเคเตอร์ให้เราเห็น แสดงว่าต้องมีการจบแท่งเทียนใน Timeframe นั้น ๆ ก่อน จึงเป็นจุดเข้าออเดอร์ที่ช้ากว่าแบบแรก มักจะไม่ได้จุดที่ต่ำสุดหรือสูงสุดของกราฟ

     ข้อดีของเทรดเดอร์รอคอนเฟิร์ม คือ โอกาสพลาดน้อยลง อัตราส่วน Win Rate จะเพิ่มขึ้น เพราะต้องรอสัญญาณยืนยันก่อน นั่นหมายความว่า Risk เราจะไกลขึ้นกว่าเดิม และ Reward เราจะได้น้อยลง ข้อดีอีกข้อของการเทรดรอคอนเฟิร์ม คือ เมื่อเปิดออเดอร์แล้ว กราฟมักจะไปต่อโดยใช้เวลารอไม่นานนัก

     3.เทรดตามเทรนด์ อินดิเคเตอร์ที่ใช้ เช่น MACD, ADX หรือเทรดตามสไตล์ Breakout คือ มีแรงซื้อทะลุแนวรับ-แนวต้านนั่นเอง

     ข้อดีของการเทรดตามเทรนด์นั้น โอกาสพลาดจะน้อย อัตราส่วน Win Rate จะสูง และเนื่องจาก Win Rate สูง ทำให้ Risk จะไกลมาก ๆ ส่วน Reward จะได้ในอัตราส่วนที่น้อยลงไปอีก แต่การเทรดในลักษณะนี้ เมื่อเปิดออเดอร์แล้วกราฟแทบจะไปต่อในทันที ข้อด้อยของการเทรดสไตล์นี้ คือ มักจะเสียโอกาสในการได้ออเดอร์ในราคาที่ต่ำที่สุด