เปรียบเทียบซื้อสินทรัพย์ตัวเดียวกันผ่านหุ้นและ TFEX

          วิดีโอนี้พี่แดงมาแชร์แนวความคิดเปรียบเทียบการใช้ประโยชน์จากการซื้อขายสินทรัพย์ตัวเดียวกัน ในตลาดหลักทรัพย์ (SET) และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Single Stock Future (SSF) ว่ามีข้อดี ข้อด้อยอย่างไร และแนวความคิดจากเซียนมี่ ทิวา ที่ใช้ TFEX ในการบริหารพอร์ตอย่างไรครับ

1. แนวคิดที่ 1: การป้องกันความเสี่ยงและสะสมหุ้นเพิ่ม (Hedging and Accumulation)

   • เมื่อราคาหุ้นคุณค่าที่ถือครองระยะยาวตกลงมา
   • แทนที่จะขายหุ้นออกไป แต่จะใช้ TFEX (Set 50 หรือ SSF) ในการเปิดสถานะช็อต (Short) เพื่อทำกำไรจากการมองว่าทิศทางตลาดกำลังลง
   • กำไรที่ได้จากการช็อต TFEX จะถูกนำไปใช้ ซื้อหุ้นตัวเดิมเพิ่ม เพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุน
   • แม้ว่าต้นทุนเฉลี่ยของหุ้นจะสูงขึ้นเล็กน้อย แต่จำนวนหุ้นที่ถือครองจะเพิ่มขึ้น ซึ่งคุ้มค่ามาก หากมีการวิเคราะห์พื้นฐานว่าหุ้นตัวนั้นจะขึ้นต่อ
   • อาจใช้วิธีป้องกันความเสี่ยงแบบ ไม่เต็มจำนวน (Partial Hedge) โดยช็อต TFEX เพียงประมาณ 30% ของจำนวนหุ้นที่ถือครองก็ได้

2. แนวคิดที่ 2: การเข้าซื้อหุ้นปริมาณมากเมื่อสภาพคล่องต่ำ (Aggressive Entry)

   • ในกรณีที่นักลงทุนต้องการซื้อหุ้นจำนวนมาก แต่ปริมาณ Bid/Offer ในกระดานหลักทรัพย์ไม่เพียงพอให้ซื้อได้ทั้งหมด
   • โดยการซื้อหุ้นจริงตามจำนวนที่มีในกระดานก่อน
   • สำหรับส่วนที่เหลือจะ Long Single Stock Future (SSF) ในราคาที่ต้องการเข้าซื้อ
   • เมื่อราคาหุ้นจริงวิ่งขึ้นไป ให้ทยอย ขาย SSF ออก และนำกำไรจาก SSF มาซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ณ ราคาปัจจุบัน
   • วิธีนี้เสมือนว่าได้ซื้อหุ้นจำนวนทั้งหมดที่ต้องการในราคาต้นทุนต่ำตามที่ตั้งใจไว้

Package ของ TradingView

การเปรียบเทียบการลงทุนในหุ้น AOT และ AOT Single Stock Future (SSF)

          ในวิดีโอนี้ได้เปรียบเทียบการซื้อ AOT จำนวน 10,000 หุ้น ที่ราคา 39.75 บาท ระหว่างการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ กับการเปิด Long AOT Future (10 สัญญา):

รายการ	ซื้อหุ้น AOT (SET)	Long AOT Future (TFEX)
จำนวนหุ้นเทียบเท่า	10,000 หุ้น	10,000 หุ้น (10 สัญญา)
เงินทุนที่ต้องใช้	397,500 บาท	54,250 บาท (เงินหลักประกัน)
กำไร (ถ้าขึ้นไป 54 บาท)	142,500 บาท	142,500 บาท
ผลตอบแทนคิดเป็น %	35.85%	262%

ข้อดีและข้อควรระวังของการใช้ TFEX/SSF

• ข้อดี: ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อยกว่า และเนื่องจากมีอัตราทด (Leverage) ทำให้ผลตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์สูงกว่ามากเมื่อเทียบกับเงินต้นที่วางหลักประกัน
• ข้อด้อย/ความเสี่ยง: หากผิดทาง เงินจะหายไปเร็วมาก
• คำแนะนำด้านการจัดการความเสี่ยง: ควรใช้คำสั่งแบบมีเงื่อนไข เช่น Bracket Order (ตั้ง Take Profit และ Stop Loss ไว้พร้อมกัน) เพื่อป้องกันความเสียหายเมื่อเราไม่ได้เฝ้าหน้าจอ
• SSF vs. Set 50 Future: SSF (รายตัวหุ้น) มักจะมีการเคลื่อนไหวของราคาที่เป็นทิศทางชัดเจนกว่า เมื่อเทียบกับ TFEX Set 50 ที่อาจมีการเหวี่ยงมากจนควบคุมความเสี่ยงได้ยาก

เปิดบัญชี บล.บียอนด์ เทรดด้วย TradingView