Speculate อยากสำเร็จ ต้องสังเกต! สอนอินดิเคเตอร์ RSI และ CCI
ไม่ว่าอาชีพหรือธุรกิจใดก็ตาม ส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการสังเกตทั้งสิ้น ใครที่สังเกตได้ว่ามีปัญหาอะไร แล้วนำเอาสินค้าหรือบริการที่สามารถแก้ปัญหานั้นได้มาเสนอ เขาคนนั้นก็สามารถสร้างกำไรจากการแก้ปัญหานั้นได้ การเป็นเทรดเดอร์ก็เช่นเดียวกัน Speculate สำเร็จเพราะสังเกต เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่แล้วก็เกิดจากการสังเกตเช่นเดียวกัน
แพลตฟอร์มการเทรด
- TradingView: เป็นแพลตฟอร์มแบบเปิด คล้าย MT5 ที่มีเครื่องมือ อินดิเคเตอร์ และ Robot ช่วยเทรดจากนักเทรดเก่ง ๆ ให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย
- Streaming: เป็นระบบปิด มีเครื่องมือจำกัดกว่า และหน้าจอคล้าย TradingView
- MT5: คล้าย TradingView ในแง่ที่เป็นแพลตฟอร์มเปิด
อินดิเคเตอร์ RSI (Relative Strength Index)
- เป็นเครื่องมือที่หลายคนรู้จัก มีอยู่ในทุกแพลตฟอร์ม (Streaming, TradingView, MT5)
- จุดเด่นใน TradingView: มีเส้น SMA ของ RSI เพิ่มเข้ามา ซึ่ง MT5 ไม่มี และมีประโยชน์ในการสังเกตมากขึ้น
- Divergence (สัญญาณความขัดแย้ง): TradingView สามารถช่วยคำนวณและแสดง Divergence ได้อัตโนมัติ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงโอกาสที่กราฟจะกลับตัว (เช่น กราฟขึ้นแต่ RSI อ่อนแรงลง)
- การใช้งาน RSI ทั่วไป: ใช้ดูภาวะ Overbought (>70) หมายถึงมีการซื้อมากเกินไป พร้อมจะลง และ Oversold (<30) หมายถึงมีการขายมากเกินไป พร้อมจะกลับตัวขึ้น
- สไตล์การเทรดแบบ RSI: มักใช้กับการเทรด สวนเทรนด์ ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ต้องตั้ง Stop Loss อย่างเคร่งครัด และหากโดน Stop Loss บ่อยๆ อาจส่งผลเสียต่อ Mindset
- การใช้ RSI ร่วมกับเส้น SMA: สังเกตเมื่อ RSI ตัดเส้น SMA ของตัวเอง สามารถใช้เป็นจุดเข้า-ออกออเดอร์ได้ แม้ RSI จะยังไม่ถึงระดับ Overbought/Oversold ก็ตาม
![]() |
เปิดบัญชีกับ บล.บียอนด์ ใช้งาน Tradingview ฟรี |
- ค่ามาตรฐาน: คือ 20 เทียบเท่ากับค่าเฉลี่ย 1 เดือนสำหรับตลาดหุ้นไทย
-
ความแตกต่างและเหตุผลที่ชอบ CCI มากกว่า RSI:
- RSI: เน้นการหาจุดกลับตัว (สวนเทรนด์)
- CCI: เหมาะกับการ เทรดตามเทรนด์ CCI จะให้สัญญาณในการ "ตาม" เทรนด์เมื่อถึงจุด Overbought/Oversold ซึ่งแตกต่างจาก RSI ที่จะแนะนำให้ "สวน"
- Mindset: การเทรดตามเทรนด์ด้วย CCI ทำให้โดน Stop Loss น้อยกว่า ส่งผลดีต่อ Mindset แม้กำไรอาจจะน้อยกว่าการสวนเทรนด์
- สัญญาณไม่ Repaint: ทั้ง CCI และ RSI สัญญาณที่เกิดขึ้นแล้วจะไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้สามารถใช้เข้าออเดอร์ได้ทันที
- Pattern Recognition (การจดจำรูปแบบ):
- Candlestick Patterns (รูปแบบแท่งเทียน): เช่น Bullish/Bearish Engulfing, Morning Star โดยระบบจะทำแถบหรือสัญลักษณ์ระบุให้เห็นบนกราฟอัตโนมัติ
- All Chart Patterns (รูปแบบกราฟโดยรวม): เช่น Bullish Pennant, Double Bottom, Head and Shoulder, Falling Wedge ระบบจะวาดรูปแบบและคาดการณ์ Target Price (เป้าหมายราคา) ให้เห็น
- Screener (การคัดกรองหุ้น): เป็นฟังก์ชันสำหรับการสแกนหาหุ้นตามเงื่อนไขที่ต้องการ ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานสำหรับการเทรดหุ้นในอนาคต
ข้อคิดและคำแนะนำปิดท้าย
- การสังเกต: ไม่ใช่แค่สังเกตวิธีการเทรด แต่ต้องสังเกต อารมณ์และสภาพจิตใจของตัวเอง ด้วย
- ความเหมาะสม: แผนการเทรดของโค้ชหรือผู้อื่นอาจไม่เหมาะกับทุกคน ควรเรียนรู้และปรับให้เข้ากับปัจจัยรอบข้างและวิถีชีวิตของตนเอง
- เป้าหมายการลงทุน: พิจารณาว่าต้องการรวยเร็วขนาดไหน และไม่ควรเอาเงินทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับอนาคตระยะยาวมาทุ่มกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงเพียงอย่างเดียว ควรมีการวางแผนทั้งระยะสั้น กลาง และยาว
0 ความคิดเห็น